ดร.สมชาย แสวงการ กล่าวในรายการไทยรัฐนิวส์ ถึงกรณี แพทองธาร ว่า
เข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และมีการขอให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ซึ่งอันที่สองนั้นอยู่แล้วไม่ได้คำร้องอื่นเหมือนกรณีที่คุณพ่อพูดถึงกรณีท่านนายกยิ่งลักษณ์อย่างเนี่ยอันนั้นน่ะอันนั้นมีความผิดอื่นประสมไปเยอะแยะเลยเรื่องการโยกย้ายเรื่องไรเนี่ย
แต่ผมคิดว่าเมื่อลาออกแล้ว วินิจฉัยความเป็นสิ้นสุดลงไม่ได้เพราะสิ้นสุดไปแล้วนะครับผมก็ตรวจทานกับอดีตตุลาการศาลบางท่าน ความหมายของนายก ไม่ต้องเชื่อนะคำว่าตรวจทานมีแค่นี้จริงๆคือไม่ว่าผลจะออกมาออกมาเป็นยังไงในวันศุกร์นี้มีผลผูกพันกับส่วนงานอื่นหรืออื่นไหม มีผลแค่ว่าพ้นคุณสมบัติหรือไม่แต่เรื่องคดีอาญาเนี่ยมันเดินสองส่วนจะหลัก
ตำรวจสอบสวนไปแล้วความเห็นทางกฎหมายมีสิทธิ์ไม่เหมือนกัน ผมก็กับทีมงานกฎหมายก็ดูว่า เป็นความมั่นคงของรัฐมันเข้า หมวด 3 ของรัฐธรรมนูญ เรื่องความผิดนอกราชอาณาจักร เราเห็นว่าอันเนี่ยจำเป็นต้องดำเนินคดี
ตนไม่เคยดำเนินคดีขนาดนี้นะแต่ท้ายสุดอยู่ที่ตำรวจ อัยการ ศาล ตอนนี้ไปสอบปากคำผมสองสองครั้งแล้ว เท่าที่ทราบคือตำรวจเค้าสอบสวนปากคำของผู้ร้องทั่วประเทศ 14 จังหวัดหมดแล้ว มีข่าวหนังสือพิมพ์ว่าเค้าส่งไปให้ ป.ป.ช.เราก็เลยไปยื่นที่ ป.ป.ช.เอาหลักฐานไปเพิ่ม
เพราะว่าคดีมันน่าจะไปรวมที่ป.ป.ช.ก็เลยไปยื่นต่อจากว่าจากสอบสวน ผมก็ไปยื่นให้ป.ป.ช.ดำเนินคดี เพราะผมให้ปากคำที่ ตร.กองปราบมาแล้ว
