ผู้สื่อข่าวไทยรัฐรายงานว่า…
“แพทองธาร” ลั่น ไทยพร้อมสู้ไม่ถอย เมื่อกัมพูชาเริ่มยิงก่อน คุยกับ รมช.กห. แล้ว ยุทโธปกรณ์เราครบ กระทรวงการต่างประเทศเดินหน้าแจงเวทีโลกเต็มที่ แนะตอนนี้คนไทยต้องสามัคคีกัน บอกกัมพูชา น่าจะไม่พอใจไทยลุกหนักปราบคอลเซ็นเตอร์จนไปขัดผลประโยชน์บางอย่าง ชี้ แม้ไม่ใช่ตระกูลชินวัตรเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องทำเรื่องนี้
วันที่ 26 ก.ค. 2568 เวลา 15.31 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังประชุมติดตามมาตรการรับมือ และการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา เสร็จสิ้น ว่าสถานการณ์ความรุนแรงเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น จนกระทั่งกัมพูชาได้เปิดฉากยิงก่อนในวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีสำนักข่าวต่างประเทศ
ได้ตั้งข้อสังเกต และมีหลักฐานว่าวันนั้นนักเรียนไทยในจังหวัดชายแดนเดินทางไปเรียนตามปกติ แต่ทางกัมพูชาไม่ได้ไปและมีการสั่งให้หยุดเรียน ซึ่งต้องดูข้อมูลเพิ่มเติมว่าจริงหรือไม่จริง เพราะหากไทยรู้ว่าจะยิงก็คงมีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ในตอนนี้แม้ตนเองปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็ยังคงรับฟังและติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวานนี้ได้มีการอัปเดตกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมที่มีการเน้นย้ำว่าเรื่องยุทโธปกรณ์ของไทยมีความพร้อมไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนที่ไทยได้ใช้เครื่องบิน F-16 ไป เป็นเพราะทางกัมพูชามีการยิงเข้ามาถึงแหล่งชุมชนที่มีทั้งลูกเด็กเล็กแดงและเกิดผลกระทบกับประชาชนจริงๆ
โดยไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามรัฐบาล กองทัพและฝ่ายความมั่นคงได้ประสานงานอย่างต่อเนื่องและดูเรื่องนี้อย่างรอบคอบ หากถามว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปก็ต้องปล่อยให้หน้างานประเมิน แต่เราจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องประเทศไทยของเรา และยืนยันว่าไทยไม่เคยเริ่มก่อนและไม่ต้องการใช้ความรุนแรงแต่เมื่อความรุนแรงมาถึง เราเองก็ต้องสู้และไม่ถอยเช่นกัน
นอกจากนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศยังได้แสดงหลักฐานความไม่ชอบธรรมของทางกัมพูชา ทั้งการละเมิดสนธิสัญญาและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและการไร้มนุษยธรรมอย่างรุนแรง เช่น การลอบวางทุ่นระเบิด ที่มีหลักฐานว่าเป็นการวางใหม่ ซึ่งผิดหลักสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างยิ่ง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้บอกให้ทั่วโลกรับทราบและชี้แจงกับสื่อซึ่งเขาก็เชื่อในสิ่งที่เราพูด
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า สถานการณ์ตอนนี้สนับสนุนให้คนไทยเกิดความสามัคคีในชาติ ขอให้ทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน เรื่องขัดแย้งในประเทศยังรอได้ ซึ่งตอนนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าคนไทยรักคนไทยเองเป็นอย่างมาก ส่วนคำครหามากมายที่กำลังปั่นให้เกิดความเกลียดชัง ที่ระบุว่า 2 ตระกูลทะเลาะกัน จำได้หรือไม่ว่าหลายเดือนที่ผ่านมาดิฉันมีการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังและได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ดิฉันก็เกิดความสับสนที่ตอนนั้นที่ยังติดต่อกับทางกัมพูชาได้ ที่ได้รับแจ้งจากคนที่ทำหน้าที่แปลว่าทางกัมพูชาโกรธดิฉัน ดิฉันก็ได้โทรไปคุยส่วนตัวโดยที่ยังไม่มีเรื่องอัดคลิป จึงไม่ทราบว่าเขาเสียผลประโยชน์หรือไม่เพราะเรายืนยันว่าต้องการปราบยาเสพติด ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ที่เป็นการตั้งใจของรัฐบาลอยู่แล้วและต้องทำ แต่เขาอยากให้เราพูดกันแค่ 2 ประเทศ ไม่ร่วมกับประเทศอื่น ที่มีทั้งลาว และเมียนมา ตนจึงให้ดำเนินการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
พอกลับมานึกย้อน จึงได้ทราบว่าคือการแสดงความไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้นในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะไม่มีประเทศใดไม่พอใจกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อประชาชนถูกหลอก รัฐบาลเข้ามาช่วยก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ก็เลยทำให้เข้าใจว่าเราคงไปขัดผลประโยชน์บางอย่างจึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งดิฉันมั่นใจว่ารัฐบาลเข้ามาไม่ว่าจะนามสกุลชินวัตรหรือไม่ก็ต้องปราบเรื่องนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยเช่นเดียวกับเรื่องยาเสพติด ไม่ทำก็ไม่ได้
CR : Thairat