การประชุมวิชาการเนื่องในวันสหวิทยาการ ครั้งที่๑๕ เรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำผ่านการวิจัยแบบสหวิทยาการ กรณีน้ำท่วมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
วันที่: 31 พฤษภาคม 2568
สถานที่: ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 ชั้น 4 ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและ convention Center แจ้งวัฒนะ โดยคณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา สำนักงานราชบัณฑิตยสภาร่วมกับสำนักการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
พิธีเปิด:
- กล่าวต้อนรับ: นางสาวเสาวนีย์ มุ่งสุจริตการ (รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยแห่งชาติ)
- กล่าวรายงาน: ศาสตราจารย์ ดร. ยงยุทธ วัชรดุลย์ (ประธานกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา)
- กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ: นายแพทย์สุรพล อิสระไกรศีล (นายกราชบัณฑิตยสภา)
การอภิปรายทางวิชาการ: การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำด้วยการวิจัยแบบสหวิทยาการ กรณีน้ำท่วมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
วิทยากร:
- รองศาสตราจารย์ วิศณุ ทรัพย์สมพล (รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร)
- นางสาวพัชวีณ์ สุวรรณณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)
- ดร. ธเนศร์ สมบูรณ์ (ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ผู้แทนกรมชลประทาน)
- นายฟาตา มรรษทวี (ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์และพัฒนาระบบตรวจวัดแผ่นดินไหว รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนางานระบบพยากรณ์อุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา)
- รองศาสตราจารย์ ดร. สุจริต คูณธนกุลวงศ์ (ประธานแผนงานวิจัยเข็มมุ่งด้านการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานวิจัยแห่งชาติ)
- ศาสตราจารย์ ดร. วรเดช จันทศร (ราชบัณฑิต ประธานสำนักธรรมศาสตร์และการเมือง วิทยาการ)
- ผู้ดำเนินการอภิปราย
ภาคบ่าย: การแบ่งกลุ่มอภิปราย (4 กลุ่ม)
1. สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง: การนำสหวิทยาการไปใช้ในการพัฒนาประเทศ
2. สำนักวิทยาศาสตร์: สหวิทยาการเพื่อการติดตามและประเมินผลเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของประเทศไทย
3. คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: ตำนานและความเชื่อเกี่ยวกับน้ำและอุทกภัยในอดีตและปัจจุบัน หลากหลายมิติของวัฒนธรรม ศาสนา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
4. สหวิทยาการ: ตัวอย่างเค้าโครงการวิจัยแบบสหวิทยาการ เรื่อง โครงการกำหนดมาตรฐานสวัสดิการ ค่ารักษาพยาบาลแห่งชาติ
การกำหนดนโยบายเป็นโครงการขนาดใหญ่ เกิดประโยชน์ในระยะยาวให้ครอบคลุมทั่วประเทศ การป้องกันน้ำท่วมในกรุงเทพที่เกิดขึ้น เช่น คลองบางบาล – บางไทร จะช่วยให้การระบายน้ำได้รวดเร็วขึ้น
ข้อเสนอแนะจากผู้ร่วมประชุม:
จากปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดตามมาหลังน้ำท่วม 1-2 เดือน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีปริมาณน้ำจำนวนมากนั้น อาจจะเกิดจากการระบายน้ำโดยไม่มีการกักเก็บน้ำลงใต้ดิน การเก็บกักน้ำที่เกิดจากน้ำท่วมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในดินและแหล่งเก็บน้ำขนาดเล็ก ห้วย หนอง คลอง บึง จะช่วยให้เกษตรกรมีน้ำใช้ได้อย่างยั่งยืน และช่วยเพิ่มระดับน้ำบาดาลให้สูงขึ้น
ควรส่งเสริมโครงการขนาดเล็กระดับครัวเรือนและชุมชนเพื่อแก้ปัญหาน้ำเสีย เพิ่มคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น ลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง บรรเทาปัญหาน้ำท่วมขัง และภัยแล้ง ฯลฯ เช่น ระบบธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิดที่สามารถทำได้ง่ายๆในครัวเรือนและชุมชน ระบบฝายแกนดินซีเมนต์ช่วยชะลอกักเก็บน้ำตามแม่น้ำในลำห้วย คลอง เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง แม้บางพื้นที่อาจไม่เหมาะสมบ้าง แต่ในหลากหลายพื้นที่ในประเทศไทย ก็มีความเหมาะสมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวและเป็นแนวทางที่คิดว่านี้มีประโยชน์มาก ฝากท่านผู้ที่กำหนดนโยบายช่วยพิจารณาในประเด็นนี้เพิ่มเติมอีกหนึ่งประเด็น
สนข.วิหคนิวส์
สมพร ปู่อ้าย รายงาน