TheStandard รายงานข่าวว่า..
ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ขอบคุณรัฐบาลฟังความเห็น ธปท. ย้ำ ‘ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต’ เป็นเรื่อง ‘เหมาะสม’ มองไม่ควรกระตุ้นการบริโภคท่ามกลางภาวะที่สินค้าต่างประเทศทะลักเข้ามาในไทย ห่วงเงินงบประมาณที่ใช้จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอื่นแทนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แนะรัฐใส่ใจอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) เหตุพายุกำลังมา เรื่องเสถียรภาพจึงสำคัญ
วันนี้ (8 พฤษภาคม) ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ความเห็นของ ธปท. ต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม กล่าวคือ รัฐบาลควรต้องพิจารณาเรื่องความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลให้ดีเป็นหลัก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และมีความท้าทายใหม่ๆ เข้ามา รวมไปถึงกรณีสินค้าต่างประเทศที่ทะลักเข้ามาไทย จึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะทบทวน พร้อมกล่าวขอบคุณรัฐบาลที่รับฟังความเห็นของ ธปท. ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวอีกว่า ด้วยบริบทปัจจุบัน อันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ เนื่องจากตอนนี้เราอยู่ในสภาวะที่พายุกำลังมา เรื่องเสถียรภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ พร้อมเตือนว่า หากไทยถูกดาวน์เกรดขึ้นมาก็จะมีผลไม่น้อย เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมของภาครัฐจะเพิ่มขึ้นทันที แล้วก็จะส่งผลไปถึงต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนด้วย โดยเฉพาะผู้ออกตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นการตัดสินใจต่างๆ ต้องใส่ใจ โดยเฉพาะในด้านเสถียรภาพทางการคลัง
ดร.เศรษฐพุฒิ ย้ำว่า ตอนนี้ลูกกระสุนทั้งฝั่งนโยบายการเงินและการคลังมีจำกัด สะท้อนว่า ผู้กำหนดนโยบายจะต้องใช้กระสุนที่เหลืออยู่ให้ ‘ถูกต้อง’ และต้องเกิดประโยชน์อย่าง ‘เต็มเม็ดเต็มหน่วย’ ซึ่งมาตรการบางอย่างอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมกับสภาวะตอนนี้ ตัวอย่างเช่น มาตรการกระตุ้นการบริโภคต่างๆ พร้อมอธิบายว่า “ตอนนี้เรากำลังกังวลเรื่องสินค้าต่างประเทศทะลักเข้ามาในไทยมากขึ้น แทนที่เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจเรา ก็จะกลายเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศแทน” ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวในงานผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press)
โดยแนะนำว่า ยังมีบางมาตรการที่ควรทำแทน ซึ่งอาจไม่ได้ใช้เงินงบประมาณเยอะ เช่น การปฏิรูปกฎหมายต่างๆ (Regulatory Guillotine) เพื่อลดอุปสรรคและต้นทุนการทำธุรกิจต่างๆ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศต้องการ
ห่วง Entertainment Complex ทำประเทศ ‘เทา’ ขึ้น ดร.เศรษฐพุฒิ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่รัฐบาลผลักดันโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่า โจทย์ที่ใหญ่กว่าการดึงนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาในประเทศ คือการทำอย่างไรให้การท่องเที่ยวเติบโตได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้เรื่องภาพลักษณ์ของประเทศก็มีความสำคัญ ดังนั้นการทำอะไรที่มีความไม่ชัดเจน มีความไม่แน่นอนสูง ไทยจะถูกมองว่าทำตัวไม่ถูกต้อง ไม่ขาวสะอาด “ภาพลักษณ์เป็นเรื่องสำคัญ คาสิโนมีความเสี่ยงที่จะทำให้ภาพของความเทามีมากขึ้น ซึ่งถือเป็นความเสี่ยง เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำตัวขาวสะอาด ถูกต้อง ตามกฎเกณฑ์ โดยเฉพาะหลัง Moody’s ปรับลด Outlook” ดร.เศรษฐพุฒิ ยังแนะว่า
ตอนนี้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกเยอะ ดังนั้นในฝั่งของการท่องเที่ยว ไทยต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ได้ โดยหนึ่งในตัวอย่างที่ทำได้คือธุรกิจ Wellness ในยุคสังคมสูงวัย ซึ่งตลาดในส่วนนี้มีแนวโน้มการเติบโตสูง การรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มนี้ จะช่วยตอบโจทย์เรื่องการยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี และมีความเสี่ยงน้อยกว่า