ผู้สื่อข่าวมติชนรายงานว่า…
’ดนุพร‘ โต้ ‘เสรีพิศุทธ์’ อยากให้มองบทเรียนที่ผ่านมา หลังลั่นประเทศชาติหมดสภาพ ต้องยึดอำนาจอีกสักครั้ง บอก อย่าซ้ำเติมประเทศ ชี้ ไม่ถูกเลือกเข้าร่วมรัฐบาล-ไปไม่ถึงฝัน ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องยอมรับความจริง
เย้ย ปี’70 ไปทำให้มี ส.ส.มากกว่า 1 เสียงอาจถูกเพิ่มความสำคัญ
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวในรายการหนึ่งว่า ถ้ารัฐบาลอยู่อย่างนี้ ประเทศชาติหมดสภาพ ต้องยึดอำนาจอีกสักครั้ง ถ้ายุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็เป็นอยู่อย่างนี้ ว่า เป็นสิทธิของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ที่จะพูด แต่เราต้องจำบทเรียนที่ผ่านมาดีๆ ว่าวันที่เราทะเลาะกันแล้วมีม็อบเต็มถนน มีการยึดอำนาจในปี 2557 ส่งผลกระทบอย่างไรต่อประเทศบ้าง แต่วันนี้รัฐบาลทำงานอย่างหนัก และแน่นอนว่าบริบทด้านเศรษฐกิจของวันนี้กับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานั้นต่างกัน ช่วงนี้บริบทนั้นยากกว่า เพราะเรื่องของภาษีทรัมป์ และอะไรอีกหลายๆ อย่าง แต่รัฐบาลก็ทำงานเต็มที่ และรัฐบาลชุดนี้ก็มีวาระคืออยู่ครบสี่ปี แล้วค่อยมีการเลือกตั้งใหม่
“หากท่านเสรีพิศุทธ์ไม่พอใจจากการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ก็รอ เหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี แล้วจะมีการเลือกตั้งใหม่ นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด มากกว่าการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติแล้วจะอยู่กี่ปีเราก็ไม่ทราบ หรือรัฐธรรมนูญก็อาจจะมีการถูกฉีกทิ้งและมีการร่างใหม่ ซึ่งมีปัญหามาจนถึงทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐบาลที่ปฏิวัติเขาร่างเอาไว้ ยังแก้ไขไม่ได้ ฉะนั้น ผมคิดว่าอย่าซ้ำเติมประเทศเลย อีกเรื่องคือการที่ท่านเสรีพิศุทธ์ไม่ถูกเป็นตัวเลือกของใคร ไม่ใช่เรื่องผิด ซึ่งต้องยอมรับให้ได้ในสังคม และไม่ใช่เรื่องผิด คุณเสรีพิศุทธ์ไม่ผิด คนที่จะเลือกคุณก็ไม่ผิด เพียงแค่ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราต้องเป็นที่ต้องการของคนอื่นอยู่เสมอ อยากให้เข้าใจความเป็นจริงในส่วนนี้ด้วย ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องยอมรับให้ได้ และต้องก้าวเดินต่อไป“ นายดนุพรกล่าว
นายดนุพรกล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มีประสบการณ์ในการรับราชการ เป็นทหารเป็นระดับนายพล ก็เชื่อว่าท่านจะเข้าใจบริบทของการเมือง และเวลาจะทำให้ท่านใจเย็นลงรวมถึงเข้าใจโลกของความเป็นจริงมากขึ้น
เมื่อถามว่า การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกมาพูดเช่นนี้ มองว่าเป็นความแค้นส่วนตัวหรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า ตนมองว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เกษียณมาแล้ว รวมถึงเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งก็เป็นความฝันของหัวหน้าพรรคทุกพรรคที่อยากมาร่วมรัฐบาล อยากมาทำงานในตำแหน่งบริหารเพื่อทำให้นโยบายของพรรคลงไปสู่พี่น้องประชาชน ตนมองว่าถือเป็นเรื่องปกติ ทุกพรรคการเมืองไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน เพียงแค่พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เชิญท่านเข้ามาร่วมรัฐบาลเท่านั้น จึงไม่ไปถึงฝัน
“หากถามว่าโกรธแค้นหรือไม่ ผมมองว่าท่านเป็นคนใจร้อนและเป็นคนจริงจัง ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นไปได้ แต่ผมก็ไม่ได้พูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัว จึงไม่สามารถที่จะตอบได้ว่าท่านโกรธแค้นอะไรหรือไม่ เพียงแค่ฟังจากข่าวก็ทราบว่าท่านอยากร่วมรัฐบาล แต่ไม่ได้ร่วม ก็ทำให้อาจมีความรู้สึกว่าเขาเก่ง แต่ไม่ได้ร่วม จึงบอกว่าการไม่ได้ถูกเลือกไม่ใช่เรื่องผิด การเมืองก็เป็นเช่นนี้ หากถูกเลือกก็สามารถเข้ามาอยู่ในรัฐบาลได้ แต่สิ่งที่ท่านต้องทำคือ ในปี’70 พรรคของท่านจะลงเลือกตั้งอยู่หรือไม่ ท่านจะมีนโยบายอะไรไปให้ประชาชนเลือก จึงอยากให้เล็งไปถึงตรงนั้นมากกว่า ตอนนี้พรรคของท่านมีแค่ 1 เสียง ท่านอาจมองว่าในระบบรัฐสภาหนึ่งเสียงของท่านอาจไม่ได้เป็นตัวเลือกที่ดีของพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากท่านสามารถทำให้ 1 เสียงของท่านเป็น 5 เสียง 10 เสียง หรือ 15 เสียงได้ ผมคิดว่าท่านอาจจะถูกเพิ่มความสำคัญว่าพรรคนี้เสียงเยอะ เราควรเอามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นโยบายของเขาเหมาะสมที่จะมาร่วมรัฐบาลกันหรือไม่ อยากให้โฟกัสตรงนั้นมากกว่า“ นายดนุพรกล่าว