ข่าวประจำวัน » คุกเจ้าพ่อเนสกาแฟ !! 24 ปีประยุทธ มหากิจศิริ สร้างสนามกอล์ฟรุกป่าลูกโดน12ปี

คุกเจ้าพ่อเนสกาแฟ !! 24 ปีประยุทธ มหากิจศิริ สร้างสนามกอล์ฟรุกป่าลูกโดน12ปี

1 May 2025
54   0

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 3 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทุกรายคดีออกที่ดินสนามกอล์ฟทับป่าสงวน ‘ประยุทธ มหากิจศิริ’ โดนหนัก 24 ปี ลูกสาวเจอด้วย 12 ปี 


สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบภาค 3 จังหวัดสุรินทร์ อ่านคำตัดสินคดีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตเกี่ยวกับการออกโฉนดในเขตที่ดินของรัฐ เป็นเขตป่าสงวนและเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) โดยมิชอบ 

โดยศาลฯ มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยทุกราย ส่วนนายประยุทธ มหากิจศิริ นักธุรกิจชื่อดัง โดนโทษจำคุก 24 ปี ขณะที่ นางสาวอุษณา มหากิจศิริ ลูกสาวนายประยุทธ มหากิจศิริ  โดนโทษด้วย 12 ปี 

สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช. เป็นโจกท์ฟ้องคดีเอง ภายหลังส่งสำนวนไต่สวนคดีเอกสารหลักฐานให้พิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ฝ่ายอัยการเห็นว่าสำนวนมีข้อไม่สมบูรณ์ และไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้  

ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ได้แก่ เจ้าพนักงานที่ดินนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก ประมาณ 5-6 ราย อาทิ หัวหน้าฝ่ายรังวัด ช่างรังวัด เจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และกลุ่มบริษัทเอกชน คือ บริษัท ไทยน็อคซ์ สเตนเลสฯ โดยมีชื่อของนายประยุทธ มหากิจศิริ นักธุรกิจชื่อดัง ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาถูกชี้มูลด้วย ระบุพฤติการณ์ กลุ่มเอกชนได้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐสอบเขตขยายเนื้อที่ของโฉนดที่ดิน เพื่อนำมาสร้างสนามกอล์ฟ เมาน์เทน ครีก กอล์ฟ แอนด์รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ นครราชสีมา ถือเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งจากการไต่สวนพบว่า กลุ่มเอกชนได้ไปซื้อที่ดินที่ที่มีโฉนด และซื้อที่ดินที่ไม่มีหลักฐานก่อนจะนำมาสอบเขต เพื่อนำที่ดินที่ไม่มีหลักฐานนั้นเข้าไปรวมด้วย ที่ดินที่ไม่มีหลักฐานมีทั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก.และเขตป่าสงวนเพื่อนำไปจัดทำสนามกอล์ฟดังกล่าว ถือว่าร่วมกันการกระทำความผิด 

คดีนี้ นับเป็น 1 ใน 3 คดี ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีกล่าวหาการออกโฉนดในเขตที่ดินของรัฐ ของนายประยุทธ มหากิจศิริ และเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ 

โดยคดีแรก กรณีออกเอกสารสิทธิ์ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่และในเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ณ ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่เนื้อที่ 66 ไร่เศษ โดยมีการนำที่ดินนอกหลักฐานอันเป็นที่ของรัฐประมาณ 19 ไร่เศษ นำมาจัดทำเป็นเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบเรื่องนี้มีหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเอกชน เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาตัดสินคดีกล่าวหา อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ กับพวกรวม 11 ราย ซึ่งนายประยุทธปรากฏชื่อเป็นจำเลยที่ 6 ในฐานะผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด ถูกลงโทษจำคุก 4 ปี แต่ลดโทษให้เหลือ 2 ปี 8 เดือน พร้อมสั่งเพิกถอนโฉนดที่ดิน ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ทั้งฉบับ ซึ่งเป็นคดีที่สำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นฟ้องเองเช่นเดียวกัน 

อีกคดี เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2567 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายกฤษณะพงศ์ พู่สกุลสถาพร อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาสีคิ้ว กับพวก ในคดีกล่าวหาแก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ในการรังวัดสอบเขตที่ดิน ตามหลักฐานโฉนดที่ดินเลขที่ 2186 และ 2192 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยทำการรังวัดนำที่ดินนอกหลักฐาน ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้ามาร่วมในโฉนดที่ดินที่ขอทำการรังวัดสอบเขตโดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยคดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 8 ราย นอกจาก นายกฤษณะพงศ์ ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาหลักแล้ว ยังมีชื่อนายประยุทธ มหากิจศิริ กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยน็อคซ์ สเตนเลสจำกัด (มหาชน) และนางสาวอุษณา มหากิจศิริ ลูกสาว รวมด้วยอยู่ โดยนายประยุทธ ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ เห็นว่า มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151,157 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 54 ประกอบมาตา 72 ตรี ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 ด้วย ส่วนนางสาวอุษณา ถูกชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157  

ขณะที่ นายประยุทธ มหากิจศิริ  ยืนยันต่อสาธารณชนว่า ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ไม่เคยใช้ หรือสนับสนุนผู้ใด เจ้าหน้าที่รัฐคนใด ให้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา การดำเนินการรังวัดที่ดินทุกแปลงที่ซื้อมาโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้ดำเนินการไปโดยเจ้าหน้าที่รัฐตามอำนาจหน้าที่ เป็นดุลยพินิจและการดำเนินการโดยอิสระของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใช้ดุลยพินิจในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของตน โดยยึดถือและปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการทุกประการ