“วัส ติงสมิตร” ชี้ เปลี่ยนตัวผู้สมัครสส.ใช้เบอร์เดิมไม่ได้ กาง กฎหมายเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 48 เขียนไว้ชัดต้องใช้เบอร์ใหม่เท่านั้น โอนเบอร์ไม่ได้
วันที่ 30 ธ.ค.68 นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการ โพสต์เฟชบุ๊กว่า เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. กลางคัน… ใช้ “เบอร์เดิม” ได้หรือไม่?
มีหลายคนสงสัยว่า หากพรรคการเมืองส่งผู้สมัครคนแรกไปแล้ว ได้หมายเลขประจำตัวแล้ว แต่ต่อมาผู้สมัครคนนั้นลาออกจากสมาชิกพรรค “ผู้สมัครคนใหม่จะใช้เบอร์เดิมของคนเก่าได้หรือไม่?”
คำตอบตามกฎหมายเลือกตั้ง (พรป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 มาตรา 48) คือ “ไม่ได้ครับ! ต้องใช้เบอร์ใหม่เท่านั้น”
ทำไมถึงใช้เบอร์เดิมไม่ได้?
ตามกฎหมายเลือกตั้งปัจจุบัน มีหลักการสำคัญ 3 ข้อที่ต้องจำครับ:
หมายเลขคือลำดับการยื่นใบสมัคร: ใครมาสมัครก่อน-หลัง หรือจับสลากได้ลำดับไหน ก็จะได้หมายเลขตามนั้น (มาตรา 48 วรรคหนึ่ง)
เบอร์ใครเบอร์มัน เปลี่ยนไม่ได้: มาตรา 48 วรรคสาม ระบุชัดเจนว่า “เมื่อกำหนดหมายเลขแล้ว จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ไม่ว่าด้วยประการใดๆ”
ไม่มีระบบ “สวมสิทธิ”: เมื่อผู้สมัครคนเดิม (เช่น นายบุญฤทธิ์) ลาออกจากสมาชิกพรรค หมายเลขนั้น (เบอร์ 11) จะ “ว่างลง” และหายไปจากการแข่งขันทันที ไม่สามารถโอนให้ผู้สมัครคนใหม่ (เช่น นายเท่าพิภพ) มาใช้ต่อได้
กรณีตัวอย่างให้เห็นภาพ:
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 นายบุญฤทธิ์ สมัคร สส. เขต 33 (เขตบางพลัด และเขตบางกอกน้อย ยกเว้นแขวงศิริราช) ได้ เบอร์ 11
ต่อมานายบุญฤทธิ์ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด และลาออกจากสมาชิกพรรค ทำให้เบอร์ 11 ว่างลง
พรรคทำไพรมารี่โหวตทันส่งนายเท่าพิภพสมัครแทนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เวลา 16.30 น. หากวันนั้นมีผู้สมัครคนล่าสุดคือเบอร์ 20 นายเท่าพิภพก็จะต้องได้ เบอร์ 21 เป็นต้น
ผลกระทบต่อประชาชนและผู้สมัคร
ผู้สมัคร: ต้องวางแผนการหาเสียงใหม่ทั้งหมด เพราะไม่สามารถใช้สื่อประชาสัมพันธ์หรือหมายเลขเดิมของคนก่อนหน้าได้
ประชาชน: ต้องตรวจสอบหมายเลขผู้สมัครของพรรคที่ตนเองเชียร์ให้ดี เพราะในเขตเดียวกัน แต่ละช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลและหมายเลขได้ (หากอยู่ในช่วงเปิดรับสมัคร)
สรุป: หมายเลขผู้สมัคร สส. เป็นสิทธิเฉพาะตัวที่ผูกติดกับลำดับการสมัคร เมื่อตัวบุคคลเปลี่ยน หมายเลขก็ต้องเปลี่ยนตามลำดับที่มาสมัครใหม่ครับ!
CR: TOPNEWS #TOPNEWSONLINE
