ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » ​#“ไพบูลย์” แย้มร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ..!!ฉบับธรรมาธิปไตยเกิดแน่

​#“ไพบูลย์” แย้มร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ..!!ฉบับธรรมาธิปไตยเกิดแน่

17 July 2017
593   0

                อดีต สปช. “ไพบูลย์” อ้างต้นตอโกงเงินทอนวัด เหตุพระผู้ใหญ่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ หลงในลาภยศ หยันช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดคงไม่ได้ จี้ฟันจริงจัง แฉมีส่งพระวิ่งเต้นข้ามเขตเป็นเจ้าอาวาสไปหาประโยชน์ในทางมิชอบ เผยมีภิกษุขอให้ยกร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ใหม่ ใช้หลักธรรมาธิปไตย ให้อำนาจปกครองเป็นคณะ 

  
     

       manager – วันนี้ (17 ก.ค.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป และอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงต้นเหตุที่มีการทุจริตเงินทอนวัด ว่าเกิดจากระบบการปกครองคณะสงฆ์ใช้มาตั้งแต่ปี 2505 ทำให้พระภิกษุผู้ใหญ่ชั้นปกครอง ทั้งสมเด็จและรองสมเด็จบางส่วนมีอำนาจเสร็จเด็ดขาด หลงในลาภยศสรรเสริญ ใช้อำนาจโดยไม่โปร่งใส จนขยายแหล่งผลประโยชน์ไปเอางบประมาณแผ่นดินมาใช้ตามอำเภอใจ จนเรื่องแดงขึ้นมาถูกตรวจสอบจึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก แทนที่จะแก้ไขทำให้เรื่องนี้โปร่งใส กลับพยายามข่มขู่ คุกคาม กดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้ตรวจสอบ แต่เพราะเป็นกระแสข่าวเงินทอนที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศสนใจ ช้างตายทั้งตัวจะเอาใบบัวมาปิดคงจะไม่ได้ การเอาผิดคนที่กระทำผิดทั้งข้าราชการสำนักพุทธและที่เป็นพระภิกษุชั้นปกครอง ต้องทำอย่างจริงจัง ใครผิดก็ว่ากันตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ทำให้เกิดความโปร่งใส ต้องเดินหน้าต่อไป

       

       นายไพบูลย์กล่าวว่า ขณะนี้พุทธศาสนิกชนทั้งประเทศเรียกร้องให้มีการปฏิรูปคณะสงฆ์กันขนานใหญ่ ประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวัดและพระภิกษุชั้นผู้น้อยที่ทนไม่ได้ กับการปกครองคณะสงฆ์ทุกระดับชั้นตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ที่ใชัมาตั้งแต่ปี 2505 ในปัจจุบันมีการส่งพระภิกษุนักวิ่งเต้น ข้ามเขตเข้าไปเป็นเจ้าอาวาส รักษาการเจ้าอาวาสหาประโยชน์ในทางมิชอบ มีทั้งกดขี่ กลั่นแกล้งและมีการเรียก “เก็บส่วย” กันทั้งประเทศ ล่าสุดเกิดขึ้นที่วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี จนพระชั้นผู้น้อยและเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวัด ทนระบบการปกครองรวบอำนาจ ซื้อขายตำแหน่งกันแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไป จึงมีพระภิกษุเรียกร้องให้ตนยกร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฉบับใหม่ ปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามหลัก ธรรมาธิปไตย โดยร่างกฎหมายใหม่ให้พระภิกษุแต่ละวัดแต่ละอำเภอแต่ละจังหวัดเลือกพระภิกษุในวัด อำเภอหรือจังหวัดนั้นๆ จำนวน 5-10 รูปเป็นคณะสงฆ์วัด คณะปกครองสงฆ์อำเภอ และ คณะปกครองสงฆ์จังหวัด แทนให้พระภิกษุเพียงรูปเดียวมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างปัจจุบัน และส่งตัวแทนจากคณะสงฆ์จังหวัดไปเป็นคณะปกครองสงฆ์ส่วนกลางระดับประเทศ เป็นระบบธรรมาธิปไตย ให้มหาเถรสมาคมเป็นคณะที่ปรึกษาสมเด็จพระสังฆราชที่ทรงบัญชาคณะปกครองสงฆ์ทั้งหมด

       

       “ร่างกฎหมายใหม่นี้จะออกมาเพื่อแก้ไขพระภิกษุชั้นปกครองตั้งแต่ระดับกรรมการ มส. ไล่ลงไปเจ้าคณะต่างๆ ที่ขณะนี้มีปัญหาทั้งระบบ ส่วนใหญ่มีวัตรปฏิบัติที่ไม่อยู่ในพระธรรมวินัยเสียเอง แต่มีอำนาจเสร็จเด็ดขาด ปกปิดความผิด เอื้อประโยชน์ในทางมิชอบให้แก่ตนเองและพระภิกษุใกล้ชิด กดขี่ข่มเหงเจ้าอาวาสวัดต่างจังหวัดและพระชั้นผู้น้อยไม่ให้มีปากมีเสียง จนทำให้คณะสงฆ์ทั้งหมดเกิดความเสียหาย สูญเสียศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนทั้งประเทศ หากร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับธรรมาธิปไตยยกร่างเสร็จแล้วจะส่งไปรับฟังความคิดเห็นเจ้าอาวาสวัดต่างๆ และพระภิกษุชั้นผู้น้อยทั้งประเทศ รวมทั้งพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป หากมีเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนและเห็นด้วยจะผลักดันให้เป็นกฎหมายใช้บังคับต่อไป” นายไพบูลย์กล่าว 

ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน