ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » ​#กม.ดัดหลังนักโมงเมือง!!คำนูณเตือนแม้วหนีไปก็ไร้ประโยชน์

​#กม.ดัดหลังนักโมงเมือง!!คำนูณเตือนแม้วหนีไปก็ไร้ประโยชน์

14 July 2017
798   0

             “คำนูณ” ชี้ สนช.ผ่านร่างกฎหมายลูกวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ สะเทือนการเมือง ให้ศาลรับฟ้องได้แม้ไม่สามารถนำตัวผู้ถูกกล่าวหามา ถ้าจับไม่ได้ใน 3 เดือน ให้พิจารณาคดีลับหลัง ไม่ให้นับเวลาที่หนีรวมกับอายุความ ไม่เว้นโทษจำคุกในอนาคต ให้เดินคดีที่ศาลจำหน่ายไว้ชั่วคราวทั้งหมด ทำคดี “ทักษิณ” เดินต่ออีก 4 คดี เตือนอดีตนายกฯ – รมต.คิดหนีไร้ประโยชน์ อาจต้องเผ่นตลอดชีวิต

แนวหน้า – 14 ก.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Kamnoon Sidhisamarn ระบุว่า การปฏิวัติใหญ่คดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเกิดขึ้นแล้ว แม้คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ 2560 จะอุทธรณ์ได้ในทุกกรณี แตกต่างจากก่อนหน้าที่จำกัดให้อุทธรณ์ได้เฉพาะเมื่อมีข้อเท็จจริงใหม่เท่านั้น เพื่อให้เป็นไปตามกติกาสากลที่นานาอารยประเทศยอมรับกันก็ตาม แต่การที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. …. เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับปฏิวัติที่จะมีผลสะเทือนต่อการเมืองไทยใหญ่หลวงกว่าอย่างแน่นอน
นายคำนูณ ระบุอีกว่า การเปลี่ยนแปลงที่กล่าวได้ว่าเป็นระดับปฏิวัติมีโดยสรุป ดังนี้ 1.แม้ไม่สามารถนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาล ก็ให้ศาลประทับรับฟ้องได้ – มาตรา 26 2.เมื่อศาลประทับรับฟ้องตาม 1 แล้วให้ศาลออกหมายเรียก และหมายจับ ถ้าจับผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ภายในเวลา 3 เดือน ก็ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังผู้ถูกกล่าวหาได้ – มาตรา 27 3.เมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้วอายุความสะดุดหยุดลง หากผู้ถูกกล่าวหาหนีไประหว่างพิจารณาคดีก็ไม่ให้นับระยะเวลาที่หนีไปรวมอยู่ในอายุความ – มาตรา 24/1 วรรคแรกและวรรคสอง 4.เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแล้วผู้ต้องหาหนีไป ไม่ว่าจะลงโทษจำคุกเท่าใด และผู้ถูกกล่าวหาจะหนีไปนานเท่าใด ก็ไม่เป็นเหตุให้ยกเว้นโทษจำคุกนั้นในอนาคต คือไม่ให้นำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 มาใช้บังคับ – มาตรา 24/1 วรรคสาม และ 5.คดีเดิมที่ศาลจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเพราะเหตุไม่ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาลอันเป็นกฎเกณฑ์ตามกฎหมายเก่า ให้ดำเนินการกระบวนพิจารณาต่อไปตามกฎหมายใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 ด้วย และคดีที่พิพากษาจำคุกไปแล้วก็จะเข้าเงื่อนไขข้อ 4 – บทเฉพาะกาลมาตรา 67
“มาตรา 67 บทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ไม่กระทบต่อการดำเนินการใดในคดีที่ยื่นฟ้องไว้ก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ และได้ดำเนินการไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ส่วนการดำเนินการต่อไปให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้” นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ ระบุต่ออีกว่า ทั้ง 3 ประการ เป็นการปรับแก้ในชั้นกรรมาธิการวาระ 2 โดยบทเฉพาะกาลมาตรา 67 ที่จะส่งผลสะเทือนใหญ่หลวงมาก อดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง แม้จะไม่กลับประเทศไทยก็ตาม แต่ก็จะต้องรับผลกระทบถูกดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีในคดีที่ศาลจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเพราะเหตุไม่มาศาลต่อไปทันทีตามกฎหมายใหม่นี้อีกประมาณ 4 คดี รวมมูลค่าที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตหลายๆ หมื่นล้านบาท และคดีเก่าคดีหนึ่งที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกอดีตนายกรัฐมนตรีคนนั้น 2 ปี ไม่ว่าท่านจะไม่กลับประเทศอีกนานเท่าใดก็ไม่เป็นเหตุให้ไม่ต้องรับโทษนั้น ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรีหรืออดีตรัฐมนตรีคนอื่นที่กำลังอยู่ในกระบวนพิจารณาคดี หรือถูกฟ้องคดีใหม่ หรือถูกพิพากษาจำคุกไปแล้วหนีไป หากจะคิดหนีต่อไปก็ไร้ประโยชน์ ยกเว้นหนีตลอดชีวิต เป็นเหตุการณ์ที่จะเริ่มเกิดขึ้นภายในปี 2560 นี้
ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน