ข่าวประจำวัน » ไม่สำนึก? ! อ้างยุบก้าวไกลไปอย่างผู้ชนะ ดีกว่าทำสัญญากับซาตาน

ไม่สำนึก? ! อ้างยุบก้าวไกลไปอย่างผู้ชนะ ดีกว่าทำสัญญากับซาตาน

17 April 2024
266   0

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางในการสู้คดียุบพรรค ผ่านรายการ Dailynews Talk ตอนหนึ่ง ว่า เราจะชินชากับความอปกติในระบบแบบนี้หรือ ในขณะที่มีอำนาจจากการเลือกตั้งมา เราพยายามสร้างสะพานให้ประเทศไทยไปสู่อนาคต แล้วก็ยุบ ตนว่ามันก็ต้องระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่เป็นฝ่ายค้านอันดับหนึ่งของประเทศไทย ถ้าเกิดไม่มีคู่แข่งเลย มีแต่รัฐบาลที่เป็นเผด็จการก็คือถ้ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ก็สามารถจะใช้ไปในทิศทางที่เขาต้องการที่จะทำได้อันนี้น่ากังวลกับทั้งหมด

นายพิธา กล่าวว่า ส่วนวิตกกังวลหรือไม่นั้น ตนเฉยๆ ตนเลือกตั้งได้มา 14 ล้านเสียง ถึงเวลาแล้วมันมีอำนาจของคนจำนวนน้อย หรือชนชั้นสูง ที่มีโอกาสเข้ามาถล่มหลาย ๆ ครั้ง ตนไม่รู้สึกว่ามันฟูมฟาย ไม่ทุรนทุราย มันเกิดขึ้นหลังจากตนได้พิสูจน์ตัวเองทุกอย่างจนสิ้นกระแสสงสัยแล้ว ไม่มีอะไรติดค้างใจอีกแล้ว พาเลือกตั้งครั้งแรกชนะเลือกตั้งได้ใสบริสุทธิ์ ไม่ได้ซื้อเสียงเลย แม้กระทั่งคู่แข่งก็ยอมรับตรงนี้ รวมถึงเป็นการเลือกตั้งที่มีประชาชนคนไทย ตื่นเต้นมาใช้สิทธิ์สูงที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ แค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้ว ก็เลยพร้อมที่จะเดินจากไปอย่างผู้ชนะ ดีกว่าต้องทำสัญญากับซาตาน

เมื่อถามว่ายังเชื่อในทฤษฎียิ่งยุบยิ่งโต ติดเทอร์โบ เลือกตั้งครั้งหน้า นายพิธา กล่าวว่า บูมเมอแรง ขว้างไปยิ่งไกล มันก็ยิ่งกลับมาเร็ว และกลับมาแรงด้วย แม้กระทั่งผู้มีอำนาจคนที่กุมปากกาไว้ ก็อาจจะคิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเกิดคราวหน้าตนจะชนะอีกครั้ง ตนก็อยากชนะด้วยฝีมือของพวกตน อยากเชิญชวนประชาชน รวมถึง สื่อสารไปถึงผู้มีอำนาจว่าเรากลับมาอยู่ในระบบกติกาเดียวกัน แชร์อำนาจกันแข่งกัน ถ้าคราวนี้ตนทำได้ดีกว่า ก็คือชนะ เป็นนายกฯมาบริหาร ประชาชนไม่พอใจ แล้วคราวหน้าคุณมีวิธีคิดที่ดีกว่าเขาก็จะกลับไปเลือกคุณ ถ้าเกิดตนทำได้ ตนก็ได้ 2 สมัย ถ้าทำได้อีก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ตามมาอีก ก็กลายเป็น 3 สมัย ถ้าทำไม่ได้ตั้งแต่สมัยแรก ก็กลับไปให้ประชาชนตัดสิน

“ ถ้าให้มันเป็นระบบที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแบบนี้ มันก็ไม่ต้องมีอำนาจพิเศษอะไรที่มาทำลาย ไม่ต้องมีอำนาจพิเศษที่จะไปเติมแต้มต่อให้กับพรรคใดพรรคหนึ่ง ที่โดนกลั่นแกล้งมา แต่ให้แข่งขันกันอย่างแท้จริงในการซื้อใจประชาชน ถ้าเป็นแบบนี้ประชาชนได้เปรียบมัน วิน ๆ ประชาชนจะได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะมันมาจากการแข่งขันที่ชอบธรรม เป็นการแข่งขันที่ไม่ใช่การชกใต้เข็มขัด ไม่ใช่การแข่งขันที่ใครเข้าถึงผู้มีอำนาจ ได้ใกล้กว่าก็ทำลายอีกฝั่งหนึ่งได้” นายพิธา กล้าว่า