ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ไม่สำนึก…!! วัฒนายันจำนำข้าวสำเร็จแต่ถูกจับ

#ไม่สำนึก…!! วัฒนายันจำนำข้าวสำเร็จแต่ถูกจับ

11 July 2017
1066   0

​               11 กรกฎาคม 2560 วัฒนา เมืองสุข  พรรคเพื่อไทย ลูกเขย CP ได้โพส facebook ระบุถึงกรณีจำนำข้าวว่า 


   

“คนดีชอบแก้ไข”

สินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่ผลิตโดยคนส่วนใหญ่ที่ยากจน เป็นสินค้าตามฤดูกาลที่ไม่อาจควบคุมอุปทาน (supply) ทั้งยังมีการเน่าเสียและเสื่อมสภาพง่าย รัฐบาลจึงต้องเข้ามาดูแลรวมทั้งเข้าแทรกแซงหากราคาตกต่ำเพื่อให้เกษตรกรมีกำไร อันถือเป็นการเพิ่มกำลังซื้อให้กับเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ การช่วยเหลือเกษตรกรจึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่ไม่อาจปฏิเสธหรือบ่ายเบี่ยงให้เกษตรกรไปปลูกพืชอย่างอื่น
การช่วยเหลือชาวนาก็เช่นกัน การที่รัฐบาลตั้งราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาดก็เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวนา ราคาดังกล่าวคือราคานำตลาด (indicative price) ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยคำนึงถึงต้นทุนและกำไรที่ชาวนาพึงได้รับเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้ชาวนา แต่การระบายหรือการขายต้องเป็นไปตามราคาตลาดซึ่งอาจสูงหรือต่ำกว่าราคาที่รับจำนำมา โครงการที่มุ่งช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยดังกล่าวไม่เคยถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายมาก่อน เช่น โครงการเช็คช่วยชาติ หรือโครงการแจกเงินผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาลนี้ รวมทั้งไม่เคยมีใครทักท้วงว่าจำนวนที่ให้กับผู้มีรายได้น้อยนั้นมากเกินไป ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับทัศนคติของฝ่ายเผด็จการที่มีต่อโครงการช่วยเหลือชาวนาจึงเกิดคำถามว่า “เหตุใดรัฐบาลจึงตั้งราคารับจำนำที่สูงกว่าราคาตลาด” ทั้งที่ราคาที่สูงขึ้นนั้นเป็นผลประโยชน์ของชาวนา
การรับจำนำข้าวเปลือกคือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐประกอบธุรกิจซื้อขายข้าว จึงไม่อาจวัดผลความสำเร็จของโครงการโดยดูผลกำไรขาดทุนจากการขายข้าวเหมือนที่พยายามบิดเบือนและชี้นำสังคมให้หลงผิด แต่จะต้องดูตัวเลขทางเศรษฐกิจซึ่งเป็นเป้าหมายของโครงการตั้งแต่ต้น ประกอบด้วย กำลังซื้อของประชาชน การจัดเก็บภาษี การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เงินออมของประชาชน หากเป็นไปตามเป้าหมายหรือเกินกว่าประมาณการ โดยไม่เสียวินัยการคลังดูจากหนี้สาธารณะที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าการโครงการประสบความสำเร็จอันเป็นผลงานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์แต่ผู้กำกับนโยบายกลับถูกดำเนินคดีจากเผด็จการ ด้วยกระบวนการที่น่าเคลือบแคลงตามที่แชร์มาท้ายบทความฎฃ”
สำหรับคดีจำนำข้าวนั้น มีการคัดสินจำคุกผู้กระทำความผิดไปแล้วหลายคดี  โดยเฉพาะโรงสี และนายทุน เช่น  “เสี่ยเปี๋ยง” ที่มีการนำข้าวจาก พม่า ลาว เขมรเข้ามาหมุนเวียน ซื้อราคาถูกมาจำหน่ายในราคาแพง ต้นทุน 6-7 ะันบาทต่อเกวียน แต่นำมาจำนำในราคา 15000 บาท นอกจากนี้ยังมีการทำใบประทวนข้าวปลอม โดยที่ผ่านมา ปปช. และ สตง.ได้ทำหนังสือทักท้วงโครงการดังกล่าวไปแล้วว่าเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่รัฐบาลในยุคนั้นยังคงดำเนินการ จนเกิดความเสียหายมากว่า 2 แสนล้านบาท ราว 192 คดี ซึ่ง ปปช.มีมติให้อายัดทรัพย์ไปแล้ว 

ทีมข่าว สำนักข่าว vihok news รายงาน