#โอ๊คโพสต์ภาพทักษิณกราบพื้นดินฉะคสช.ทำไทยถอยหลังถามทหารโกงใครจะจัดการ

“โอ๊ค พานทองแท้” โพสต์ภาพทักษิณกราบพื้นดินหลังรัฐประหาร 49 จี้ “ประยุทธ์-คสช.” รัฐประหารปี 57 ผ่านไปเกือบ 4 ปีประเทศย่ำอยู่กับที่-ถอยหลัง ความสุขยังริบหรี่ อัดดัชนีคอร์รัปชันพุ่ง ถามนักการเมืองโกงทหารมายึดอำนาจ แต่ถ้าทหารโกงใครจะจัดการได้

วันนี้ (1 มี.ค.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโตของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้หนีคำพิพากษาโทษจำคุก 2 ปีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้โพสต์ภาพและข้อความลงในเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra และ อินสตาแกรม oak_ptt ซึ่งมีผู้ติดตามอยู่ราว 2.7 ล้านคน และ 154,000 คนตามลำดับ โดยกล่าวถึงภาพที่ ทักษิณ ชินวัตร ก้มลงกราบพื้นดินที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากกลับถึงเมืองหลังหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551
“28 กุมภาพันธ์ 2561 คือวันครบรอบ 10ปี ของภาพนี้ครับ “กราบแผ่นดิน” ผมยังจำภาพนี้ได้ติดตา ในวันที่คุณพ่อกลับมาเมืองไทยเป็นครั้งแรก นับจากวันที่ถูกรัฐประหารไปปีครึ่ง” นายพานทองแท้ หรือ โอ๊คระบุ

บุตรชาย นายทักษิณยังกล่าวโจมตีถึงการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยว่า เวลาผ่านไปเกือบ 4 ปีแล้ว แต่ประเทศไทยยังย่ำอยู่กับที่สลับกับถอยหลัง ปัญหาที่เป็นข้ออ้างของการรัฐประหารไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญคือไม่มีฝ่ายค้านคอยถ่วงดุล ขณะที่กลไกการตรวจสอบก็ถูกครอบงำไปหมด ทำให้ดัชนีคอร์รัปชันพุ่งขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดังนั้นตนจึงอยากถามว่า เมื่อนักการเมืองถูกกล่าวหาว่าทุจริต ก็มีทหารออกมายึดอำนาจ แต่ถ้าทหารทุจริต แล้วใครจะเป็นคนจัดการ?

“28 กุมภาพันธ์ 2561 คือวันครบรอบ 10ปี ของภาพนี้ครับ “กราบแผ่นดิน” ผมยังจำภาพนี้ได้ติดตา ในวันที่คุณพ่อกลับมาเมืองไทยเป็นครั้งแรก นับจากวันที่ถูกรัฐประหารไปปีครึ่ง คุณพ่อทรุดตัวลงไปกราบกับพื้น โดยที่คนเดินตามหลังไม่ทันตั้งตัว จนได้ยินเสียงถามมาจากข้างหลังไกล ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ.2549 ครั้งนั้นยังถือว่าดีที่ ผบ.ทบ.ผู้นำการยึดอำนาจ มิได้ยึดติดกับอำนาจที่ตนได้มา จึงแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นนายกฯ และใช้เวลาประมาณปีเดียว ก็คืนอำนาจให้กับประชาชน ทำให้บ้านเมืองกลับเป็นประชาธิปไตยอีกครั้ง

แต่หลังจากนั้นอีกเพียงไม่กี่ปี ผบ.ทบ. (ตำแหน่งเดิม เปลี่ยนตัวบุคคล) ก็ใช้กำลังทหาร ยึดอำนาจการปกครองมาเป็นของตนอีกครั้ง ยึดอำนาจครั้งหลังนี้หนักกว่าครั้งก่อนเพราะ ผบ.ทบ.คนนี้ (ผบ.ทบ.ขณะนั้น นายกฯขณะนี้) ยึดอำนาจเอง แล้วตั้งตัวเองเป็นนายกฯเสียเอง แถมสัญญากับประชาชนเสียอย่างดิบดี ว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานก็จะคืนความสุขให้กับประชาชน เวลาผ่านไปถึงเกือบ 4 ปี ประเทศไทยยังย่ำเท้าอยู่กับที่ สลับกับถอยหลัง ความสุขที่ว่าจะคืนให้ ยังคงริบหรี่ไม่มีหวัง ปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นข้ออ้างของการรัฐประหาร ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เพราะรัฐสนใจแต่จะทำโครงการใหญ่ ๆ ซื้ออาวุธราคาแพงๆ ปล่อยให้พี่น้องประชาชนเผชิญชะตากรรมไปกันเองตามลำพัง ที่หนักหนากว่าเดิมคือ ร่องรอยของการทุจริตมีให้เห็นไปทั่ว ในขณะที่ไม่มีฝ่ายค้านคอยถ่วงดุล แถมกลไกในการตรวจสอบ ก็ตั้งพวกพ้องของตนไปนั่งทำหน้าที่เกือบหมด แบบนี้จะตรวจสอบกันกี่ครั้ง ก็บริสุทธิ์ผุดผ่องทุกครั้งไป

“กล่าวหารัฐบาลอื่นทุจริต แต่ตัวเองทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ เสียจนดัชนีคอรัปชั่นขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากช่วงเริ่มต้นรัฐบาลประยุทธ์ 1 อยู่ที่อันดับ 78 ของโลก ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อประเทศชาติกันจนปัจจุบัน หล่นไปอยู่อันดับที่ 101 ร่วงจากเดิมถึง 23 อันดับ แบบเนี้ยนะครับ เอาคนดีมาปกครองประเทศ

“เขียนมายืดยาว สรุปคำถามสั้นๆเลยแล้วกันครับ คือ
เมื่อนักการเมืองถูกกล่าวหาทุจริต คนออกมายึดอำนาจคือทหาร
แล้วถ้าทหารทุจริตบ้าง ใครจะเป็นคนจัดการครับ?”