ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #โดนแล้ว8คดี ! ไม่สวมหน้ากาก ปรับ1-2พันบาท

#โดนแล้ว8คดี ! ไม่สวมหน้ากาก ปรับ1-2พันบาท

28 April 2021
463   0

โฆษกศาลยุติธรรมเผย ปชช.ไม่สวมหน้ากากอนามัยขึ้นศาลแล้ว 8 คดี สั่งปรับรายละ 1,000-2,000 บาท

เผยแพร่: 28 เม.ย. 2564 11:25   ปรับปรุง: 28 เม.ย. 2564 11:25   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม

โฆษกศาลยุติธรรมเผย ประชาชนไม่สวมหน้ากากอนามัย ตั้งเเต่วันที่ 26 เม.ย.แล้วทั้งหมด 8 คดี สั่งปรับรายละ 1,000-2,000 บาท แจงปรับไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และความหนักเบาแห่งคดี

วันนี้ (28 เม.ย.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงภาพรวมของการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมทั่วประเทศกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศของจังหวัดต่างๆ ว่า สำหรับศาลยุติธรรม ที่ได้เริ่มรวบรวมสถิติคดีลักษณะดังกล่าวแล้วนั้น นอกจากที่มีการฟ้องคดีและมีคำพิพากษาไปแล้วในส่วนของศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 1 คดี จำเลย 1 คน

ล่าสุดตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2564 มีรายงานคดีเข้ามาอีกในศาลเขตพื้นที่ต่างๆ รวม 4 ศาล จำนวน 8 คดีด้วยกัน

โดยมีศาลจังหวัดเวียงสระรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 มีฟ้องเข้ามา 1 คดี จำเลย 2 คน ศาลลงโทษปรับคนละ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 1,000 บาท

และเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 มีรายงานว่าที่ศาลจังหวัดเวียงสระมีฟ้องเข้ามาอีก 1 คดี จำเลย 1 คน ศาลลงโทษเท่ากันกับเมื่อวันก่อน (26 เมษายน)

นอกจากนี้ ในวันที่ 27 เมษายน ยังมีที่ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน รวม 2 คน ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับคนละ 2,000 บาท

ศาลจังหวัดยะลาฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน รวม 2 คน ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับคนละ 2,000 บาท

และศาลจังหวัดเบตงฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน รวม 2 คน ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับคนละ 1,000 บาท

สำหรับการลงโทษที่มีข้อแตกต่างกันนั้น เนื่องจากผู้พิพากษาสามารถใช้ดุลพินิจพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดีของแต่ละคดีซึ่งอาจมีรายละเอียดและความหนักเบาแห่งการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน การลงโทษจึงเป็นไปได้ที่จะไม่เท่ากัน

“ในส่วนของการพิจารณาของศาลนั้น จะลงโทษตามระวางโทษที่กฎหมายกำหนด ส่วนบัญชีอัตราเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบ ฯ นั้น ใช้สำหรับผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ ซึ่งตามคำสั่งกรมควบคุมโรครวมถึงพนักงานสอบสวนด้วย บัญชีนี้ไม่ผูกพันให้ศาลต้องใช้ตามเกณฑ์ที่กำหนดว่าครั้งแรกต้องปรับ 6,000 บาท ศาลจึงยังคงมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจลงโทษได้ไม่เกิน 20,000 บาท ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ซึ่งเมื่อพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว อาจเกินกว่าหรือต่ำกว่า 6,000 บาท ก็ได้”

อีกทั้ง การชำระค่าปรับตามที่ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นผลทำให้คดีอาญาเลิกกัน สิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ไม่ต้องมาฟ้องคดีที่ศาลอีก หากไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับคดีอาญาก็ยังไม่ระงับ เจ้าพนักงานก็มีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลได้

อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร การประกาศของทางราชการอยู่เสมอเพื่อจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเองและผู้อื่น

ในส่วนของศาลยุติธรรมนั้น ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำนักงานศาลยุติธรรมมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนงานการพิจารณาตัดสินคดีของผู้พิพากษา ลดการเดินทางของคู่ความที่จะต้องเดินทางมาศาลในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ในชั้นของการยื่นคำร้อง คำขอต่างๆ ไปจนกระทั่งถึงการสืบพยาน สามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกประกาศแนวทางการปฏิบัติให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศดำเนินการแล้ว