ข้าราชการระดับสูงในท้องถิ่นตำแหน่งระดับ ผอ. ควงปืนบุกเข้าไปจี้แบงก์กรุงไทยกลางห้างดัง ย่านบางปะกง ได้เงินเกือบ 6 แสนบาท เผยทำเพื่อใช้หนี้แทนเพื่อน


โดย นายรุ่งโรจน์ ได้ให้การยอมรับสารภาพต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงประกอบด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.อ.จักรพงษ์ พันธุ์มงคล ผบ.ร.112 พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก. สภ.บางปะกง และนายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา ที่เดินทางมาร่วมแถลงข่าวว่า
การตัดสินใจก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หนี้สินแทนเพื่อน ที่ถูกติดตามทวงหนี้และมีเส้นตายที่จะต้องใช้ภายในวันที่ 1 ก.พ. นี้ แต่ไม่ระบุว่าเพื่อนสนิทที่ยินยอมทิ้งอายุราชการที่ทำงานรับราชการมานานถึง 27 ปีเต็ม และทิ้งตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ระดับ 7) นั้นเป็นใคร พร้อมทั้งยังปฏิเสธด้วยว่าไม่ได้ติดหนี้การพนัน ไม่ได้นำเงินของทางราชการไปใช้ส่วนตัว หลังก่อเหตุได้เงินไปใช้หนี้สินให้เพื่อนในทันทีทั้งหมด จึงไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวเหลืออยู่เลย
ทั้งยังอ้างอีกด้วยว่า ไม่ได้มีการเตรียมการในการก่อเหตุเอาไว้มาก่อน โดยในวันเกิดเหตุได้เดินวนเวียนคิดอยู่นานในบ้านก่อนตัดสินใจก่อเหตุ โดยเพิ่งทำเป็นครั้งแรก และไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีการจี้ชิงเงินจากทางธนาคารทหารไทยเมื่อปี 2557 และ 2558 จำนวนกว่า 2 ล้านบาท แต่อย่างใด และในขณะก่อเหตุอาวุธปืนไม่ได้มีการบรรจุกระสุนนำไปใช้ก่อเหตุด้วย
หลังการซักถามสอบปากคำ นายรุ่งโรจน์ เสร็จสิ้น ทาง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำพยานหลักฐานทั้งหมด ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า PCX ทะเบียน 1 กฌ-835 ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีการดัดแปลงโดยใช้สติ๊กเกอร์สีดำมาแปะทับสีของตัวรถ จากสีแดงให้เป็นสีดำ โดยมีอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. พร้อมซองกระสุน หมวกกันน็อกสีดำ จำนวน 1 ใบ ถุงมือสีดำ 1 คู่ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินเข้ม 1 ตัว และหมวกไหมพรมคลุมหน้า (โม่ง) 1 ใบ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุในทันที
สำนักข่าววิหคนิวส์