(12 ต.ค.65) นายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน พูดคุยประเด็น “การเมืองแบบรักแท้ในคืนหลอกลวง” ระบุว่า กระแสการรัฐประหาร (รปห.) อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนอีกครั้ง เมื่อ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ยืนยันภายหลังการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยให้เชื่อมั่นกองทัพไม่ยุ่งการเมืองและไม่มี รปห. เนื่องจากทุกคนอยากเห็นพัฒนาการประเทศแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กลับเอามือชี้ที่ศีรษะเป็นการตอบผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่า ในหัวมีแต่ประชาชน
นายจตุพร กล่าวว่า ทหารยืนยันไม่ รปห. เนื่องจากสื่อมวลชนถามนำ จึงไม่มีใครกล้าบอกจะทำ รปห. เพราะผิดกฎหมาย ม.113 อย่างไรก็ตาม ในช่วงรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ก็เชื่อว่า ทหารไม่ทำ รปห.เช่นกัน เนื่องจากไม่รู้สภาพภายในของทหาร ยิ่งการเคลื่อนกำลังทหารก็ยังหลอกได้ จนเกิดยึดอำนาจในปี 2549 รวมถึงการตัดสินใจวางคนตอบโต้ แก้ปัญหายึดอำนาจผิด ต่อมาถึง รปห. ปี 2557 นั้น เป็นการแสดงถึงความไม่รู้ที่เอาผู้หญิงมาเป็น รมว.กลาโหม เพียงแค่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แพ้ทางผู้หญิง แล้วก็แพ้ทันทีโดยถูกยึดอำนาจ
“วันนี้ประชาชนต้องมีสติ อย่าเชียร์ฝ่ายการเมืองแบบไม่ลืมหูลืมตา ไร้เหตุผล โดยเฉพาะตรรกะวิบัติที่อยู่กันแบบหลอกๆ กัน ด้วยการกล่าวหานักการเมืองย้ายออกจากพรรคเป็นคนทรยศ แต่เมื่อย้ายกลับมากลับเชิดชูเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ แสดงว่าเป็นขนมจีนน้ำยาทางการเมือง ดังนั้น ความอยากจึงสนองกิเลสได้ทุกอย่าง เพราะมันเป็นการเมืองของปลายลิ้น ต้องการชัยชนะอย่างเดียว”
นายจตุพร ย้ำว่า ขณะนี้สังคมต้องพูดความจริง การเรียกร้องให้เลือกตั้งโดยไม่มีกฎหมายลูก ถ้ายุบสภาหรือรัฐบาลอยู่ครบวาระ พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งอยู่นานกว่าเดิม ถ้าพรรคการเมืองมาร่วมกับประชาชน จัดการประเทศเสียใหม่ โดยรีบร่าง รธน.ขึ้นใหม่ ยิ่งจะทำให้มีเลือกตั้งเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
“ตอนนี้ประยุทธ์ รอจังหวะ รอสถานการณ์เมื่อพร้อม อีกทั้ง กกต. ยังยืนยันไม่ทำ พรก.เลือกตั้ง ดังนั้น ฝ่ายการเมืองเสียแล้ว เสียอีก โง่แล้วโง่อีก และที่สำคัญทำให้ประเทศเสียหายอย่างยิ่งยวด”