แม่ม่ายฐานะยากจนเลี้ยงลูกพิการ พบเงินโอนผิดเข้าบัญชีกว่าครึ่งแสน ติดต่อธนาคารขอคืนเงิน เผยเคยพบเงินนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ไม่คิดครอบครอง ถึงยากจนแต่ไม่เคยคิดจะเอาของของคนอื่น
(18 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพิจิต อายุ 61 ปี ชาว อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เดินทางมาที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดต่อขอพบ นายสมใจ สุทธิรักษ์ ผู้จัดการ ธกส. สาขาทุ่งใหญ่ เพื่อนำเงินสดที่น่าจะมีผู้โอนเงินผิดบัญชีมาเข้าบัญชีของตน จำนวน 60,000 บาท เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นเงินที่ตนขายรถไป และคนซื้อรถโอนมาให้
นางพิจิต เปิดเผยว่า หลังกดเงินออกมาแล้วจึงติดต่อกลับไปหาคนที่ซื้อรถของตน โดยคนที่ซื้อรถของตนแจ้งว่ายังไม่ได้โอนไปให้ จึงได้รู้ว่าเงินดังกล่าวที่เข้าบัญชีไม่ใช่ของตน น่าจะมีคนโอนเงินผิดเข้ามา จึงติดต่อขอนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนกับธนาคารให้ติดตามส่งคืนคนที่โอนผิด
แต่ในวันนี้เป็นวันหยุด ผู้จัดการธนาคารจึงมอบหมายให้ นางจุฬาวรรณ เหมทานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการ และพนักงานธนาคาร เดินทางมารับเงินจากนางพิจิต พร้อมทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดต่อหาเจ้าของเงินตัวจริง และคืนเงินกลับเข้าบัญชีให้เจ้าของต่อไป
นางพิจิต บอกอีกว่า ตนมีฐานะยากจน ทำงานรับจ้างไปวันๆ อาศัยอยู่กับลูกสาว อายุ 22 ปี ซึ่งป่วยพิการทางสมอง เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ตอนอายุ 6 ขวบ ถึงแม้ตนจะมีฐานะยากจน แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเอาเงินของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง คิดเสมอว่าเจ้าของเงินต้องเดือดร้อน และคงมีความจำเป็นที่จะใช้เงิน
นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมาตนก็เก็บกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยว อ.ทุ่งใหญ่ และทำตกริมถนนสายทุ่งใหญ่-กระบี่ ได้ ซึ่งในกระเป๋ามีเงินสกุลต่างชาติเป็นจำนวนมาก
หลังพบกระเป๋าและตรวจสอบว่าเป็นกระเป๋าของใคร จึงติดต่อเจ้าของโรงแรมที่นักท่องเที่ยวเจ้าของกระเป๋ามาพัก สร้างความดีใจให้ชาวต่างชาติเจ้าของกระเป๋าเป็นอย่างมาก พร้อมกล่าวขอบคุณและตอบแทนความมีน้ำใจของตน โดยมอบเงินจำนวน 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เงินจำนวน 10,000 บาทที่นักท่องเที่ยวให้เพื่อแทนความขอบคุณตนนั้น ตนไม่ได้ต้องการ เพราะการทำความดีของตนไม่ต้องการการตอบแทน ตนตั้งใจทำความดี แม้จะมีฐานะยากจน แต่ไม่เคยคิดจะเอาของของคนอื่นมาเป็นของเรา
Cr.sanook
สำนักข่าววิหคนิวส์