เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #แจ้งจับเจ๊หน่อย ! แรมโบ้ ชี้ฐานกล่าวหาประยุทธ์เป็นฆาตกร

#แจ้งจับเจ๊หน่อย ! แรมโบ้ ชี้ฐานกล่าวหาประยุทธ์เป็นฆาตกร

15 July 2021
539   0

เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่กองปราบปราม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีพร้อม นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษา กรรมาธิการ(กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้าแจ้งความเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ตามกฎหมาย ป.วิอาญา ตามมาตรา116และมาตรา328กรณีกล่าวหารัฐบาลฆาตรกรในแคมเปญเชิญชวนประชาชนให้ร่วมกันลงชื่อฟ้องรัฐบาลฆาตกร เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์อันพึงได้รับจากรัฐในฐานะประชาชนท่ามกลางวิกฤติโควิด

ซัดหญิงหน่อยมุ่งปลุกปั่นใส่ร้าย

โดย นายเสกสกลระบุว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ยังเล่นการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ ยุยง ปลุกปั่น ใส่ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยก ล้มล้างการปกครอง ในสภาวะวิกฤต ซึ่งเป็นวิกฤติของคนทั้งโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทยโดยรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังเร่งแก้ไขปัญหา รวมถึงไม่ได้ต้องการให้เกิดความสูญเสีย คดีลักษณะเดียวกันนี้ เคยเกิดขึ้นในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีถูกนายจตุพร พรมพันธุ์ ประธาน นปช.แจ้งความกล่าวหา ดำเนินคดีว่าเป็นฆาตกร จากกรณีการสลายการชุมนุม แต่ศาลพิพากษาตัดสินให้นายจตุพรถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาท

ยุคแม้วมีคนตายเป็นฆาตรกรไหม

นายเสกสกลยังได้เทียบเคียงว่า“ในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯและคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นรมช.สาธารณสุขที่เกิดการระบาดของไข้หวัดนก ปี 46-49 มีการปกปิดข้อมูล มีประชาชนเสียชีวิต อีกทั้ง การฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติดและมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ กรือเซะ ตากใบอีกเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครออกมาแจ้งความดำเนินคดี ขอย้อนถามว่ารัฐบาลนายทักษิณ และคุณหญิงสุดารัตน์เป็นฆาตกรด้วยหรือไม่”

นายเสกสกลยืนยันว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ มาในนามส่วนตัวและในนามตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวข้องกับนายกฯ และไม่ได้แก้เกี้ยว หรือกลัวเสียหน้า พร้อมยืนยัน ไม่ใช่เกมการเมือง เพราะตนเองไม่มีเวลาในการเล่นการเมือง แต่เป็นการใช้สิทธิปกป้องตนเองตามกฏหมายและมองว่าคนที่เล่นการเมืองคือคุณหญิงสุดารัตน์ มากกว่าที่มาออกแคมเปญเช่นนี้

 

นายเสกสกล ยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศจะกลับประเทศไทยนั้นว่ายืนยันว่านายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์ สามารถกลับมายังประเทศไทยได้ตลอดเวลา แต่ต้องมีเงื่อนไขที่จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษรวมไปถึงจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ได้ทำไว้กับประชาชนในโครงการรับจำนำข้าวและโครงการอื่นๆ

บิ๊กตู่โล่งผลตรวจโควิดรอบ3เป็นลบ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยังคงอยู่ระหว่างการกักตัวภายในบ้านพัก ที่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์(ร.1รอ.) โดยในช่วงเช้า เวลาประมาณ 10.30 น.นายกรัฐมนตรี เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบที่3ซึ่งมีผลตรวจเป็นลบ ไม่พบเชื้อ โดยในวันพรุ่งนี้(16ก.ค.)นายกรัฐมนตรี จะเริ่มกลับไปปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก เนื่องจากครบ14วันหลังสัมผัสผู้ติดเชื้อจากการไปร่วมเปิด“ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”เมื่อวันที่ 1 ก.ค.และผ่านการตรวจหาเชื้อ 3 ครั้งซึ่งการตรวจหาเชื้อในวันนี้ของนายก รัฐมนตรี ถือเป็นการตรวจครั้งสุดท้าย หลังครบตามระยะเวลาที่กำหนด

เรียกถกคกก.ศบค.-คณะแพทย์ทันที

สำหรับภารกิจในวันที่15 ก.ค.ซึ่งถือเป็นวันแรกในการปรับเข้าทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาลโดยเวลา09.30น.นายกรัฐมนตรีได้เชิญประชุมกก.ศบค.เฉพาะคนและเชิญบุคคลเข้าร่วมหารือเท่าที่จำเป็นทันที หลังครบกำหนดการกักตัว ที่ตึกสันติไมตรี(หลังนอก) ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและรมว.พลังงาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว สาธารณสุข นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ แบะรมว.ต่างประเทศ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าราชการกทม.ปลัด กทม. ผบ.ทหารสูงสุด อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขาธิการองค์การอาหารและยา (อย.) เลขาธิการองค์การเภสัชกรรม ( อภ.) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม (สศช.) เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

พร้อมได้เชิญนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีต รมว.สาธารณสุข หัวหน้าทีมจัดหาวัคซีนทางเลือกให้เอกชน นพ.อุดม คชินทร นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา จาก รพ.ศิริราช นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ จากรพ.จุฬาฯ นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา รพ.รามาฯนพ.ยง ภู่วัฒนา ร่วมประชุมด้วย

ลุยประชุม-เปิดงาน’สมุยพลัสโมเดล’

จากนั้น ในช่วงเย็น วันเดียวกัน เวลา 18.00–20.00น.ตามเวลาประเทศไทยนายกฯจะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอย่างไม่เป็นทางการ(APEC Informal Leaders’ Retreat) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล สำหรับภารกิจวันเดียวกัน หลังผลตรวจเป็นลบ นายกรัฐมนตรี ยังคงติดตามงานต่างๆที่บ้านพัก และเวลา18.00น.วันเดียวกันนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิด Samui Grand Opening การรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model ที่หาดเฉวง เกาะสมุย ผ่านระบบวิดิโอคอนเฟอเรนซ์ ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด ที่บริเวณหาดเฉวง เกาะสมุยด้วยตนเอง

ไพบูลย์นัดถกกมธ.แก้รธน.27กค.

ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของรัฐสภา เปิดเผยแนวทางการพิจารณาแก้ไขระบบการเลือกตั้งของกรรมาธิการฯ หลังต้องงดการประชุม 2 สัปดาห์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ว่าจะประชุมอีกครั้ง ในวันที่ 27 กรกฎาคม และ30กรกฎาคมนี้ซึ่งการงดการประชุม จะไม่กระทบกรอบการพิจารณาของกรรมาธิการ ที่ตั้งใจจะเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาต่อในวาระที่ 2ในช่วงเดือนสิงหาคม เพราะกรรมาธิการฯ จะพิจารณาปรับแก้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 สิงหาคมนี้

“ที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาวาระ2ได้ปลายเดือนสิงหาคมนี้ หลังสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2565ในวาระ 2 และ3 ช่วงกลางเดือนสิงหาคมเสร็จสิ้น จากนั้นเมื่อพิจารณาวาระที่ 2 เสร็จแล้ว จะต้องเว้นการพิจารณาไว้15วัน ก่อนลงมติในวาระที่3ช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ซึ่งยังคงอยู่ในสมัยประชุม”นายไพบูลย์ กล่าว

เชื่อไม่ขัดรธน.ไม่หวั่นส่งตีความ

ส่วนจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความเพิ่มเติมอีกหรือไม่นายไพบูลย์ กล่าวว่าภายหลังการลงมติในวาระที่ 3 เสร็จสิ้นจะเป็นขั้นตอนที่นายกรัฐมนตรีต้องนำร่างงรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ระหว่างนั้นส.ส.และส.ว.ยังสามารถเข้าชื่อกัน เพื่อขอส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยได้ แต่เท่าที่พิจารณาขณะนี้ยังไม่มีประเด็นที่เข้าองค์ประกอบที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องไว้ให้ยื่นศาลตีความ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับอำนาจองค์กรอิสระ การดำรงตำแหน่งต่าง ๆ แต่การแก้ไขระบบการเลือกตั้ง ไม่ได้อยู่ในองค์ประกอบในมาตรา 256 วงเล็บ 8 จึงไม่สามารถส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ มั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนพรรคการเมืองใดจะมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกินหลักการ เป็นเรื่องของพรรคการเมืองนั้น

พร้อมมั่นใจแก้รธน.ผ่านฉลุย

นายไพบูลย์ มั่นใจว่า การลงมติร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้จะผ่านการพิจารณาแบบฉลุย เพราะมีพรรคการเมือง ที่มีเสียงข้างมากอย่างน้อย 3 พรรคการเมือง ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนการแก้ไขระบบการเลือกตั้งในครั้งนี้ซึ่งมีเสียงรวมกันแล้วประมาณ300 เสียง ส่วนเสียงของวุฒิสภา ที่ต้องมีมากกว่า 1 ใน 3 หรือมากกว่า 83 เสียงซึ่งในวาระแรกขั้นรับหลักการ วุฒิสภาสนับสนุน 210 เสียง

“ในวาระที่3ก็น่าจะเกิน 1 ใน3อยู่แล้ว นอกจากนั้น ในการลงมติวาระที่ 3 ยังจะต้องมีเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้าน ร้อยละ 20 หรือประมาณ 40 กว่าคน ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยเห็นชอบ ก็จะผ่านเกณฑ์ดังกล่าว จึงมั่นใจว่า จะได้รับเสียงเห็นชอบจากรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่ง และครบหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 กำหนด และผ่านการพิจารณาแบบฉลุยแน่นอน ไม่คว่ำ”นายไพบูลย์ กล่าว

พท.อัดรบ.แก้โควิด-ลัมปิสกินเหลว

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าวว่ารัฐบาลบริหารจัดการวัคซีนล้มเหลวไม่สามารถแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด-19ได้ และยังไม่สามารถจะแก้ปัญหาโรคระบาดในหมู่โคกระบือได้เช่นกันหลังโรคลัมปีสกินแพร่ระบาดในไทยรัฐบาลโดยเฉพาะกรมปศุสัตว์ยังไม่บริหารจัดการแก้ปัญหาโรคระบาดได้ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือ ต้องสูญเสียรายได้ที่ลงทุนการเลี้ยงโคกระบือผลกระทบโรคระบาด และเสียชีวิตจำนวนมาก ข้อเท็จจริงมีหลักฐานที่ปรากฏแน่ชัด ทั้งอัตราการตายของคนและสัตว์ ทุกชีวิตในประเทศไทยแทบจะอยู่ไม่ได้แล้ว ต่างอยู่ด้วยความยากลำบากและเสี่ยงต่อการตาย จากการบริหารงานของรัฐบาล

จี้‘บิ๊กตู่’ประกาศยุบสภาก่อนซักฟอก

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่ารัฐบาลได้บริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศทุกด้านด้วยความล้มเหลวจึงไม่สมควรที่จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป หากนายกรัฐมนตรียังไม่ประกาศยุบสภา ยังคงบริหารงานเช่นนี้อยู่ท่านจะทนเห็นน้ำตาของประชาชนต่อไปได้อย่างไร หากท่านไม่สงสารประชาชน ก็ให้สงสารประเทศ ทางพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เปิดโปงความเสียหาย และความล้มเหลวของรัฐบาลอย่างเอาจริงเอาจัง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านมีข้อมูลที่มากพอสมควรที่จะเอาผิดกับรัฐบาลในการจงใจบริหารราชการที่ล้มเหลว