ข่าวประจำวัน » #เห็นเต็มสองตา !! เจ้าอาวาสเมืองคอน” นิมิตเห็นทรัพย์สมบัติโบราณ ตัดสินใจเชิญ”พระเกจิชื่อดัง”ทำพิธีขุด #โอ้โหฝันแม่นมาก

#เห็นเต็มสองตา !! เจ้าอาวาสเมืองคอน” นิมิตเห็นทรัพย์สมบัติโบราณ ตัดสินใจเชิญ”พระเกจิชื่อดัง”ทำพิธีขุด #โอ้โหฝันแม่นมาก

14 August 2017
318   0

วันนี้ทางทีมงานวิหคนิวส์ได้รับรายงานจากวัดใหญ่รัตนโพธิ์ เลขที่ 63 หมู่ 2 ต.โมคลาน อ.ท้าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ริมถนน พระครูวินัยธรสมชาย สิริธโร อายุ 60 ปีเจ้าอาวาสวัดใหญ่รัตนโพธิ์ ได้นิมนต์พระชินวรณ์ กิตติญาโณ อายุ 58 ปี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังมาประกอบพิธีบวงสรวงบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขออนุญาติขุดค้นทรัพย์สมบัติและโบราณวัตถุบริเวณกลางลานวัดใหญ่รัตนโพธิ์ โดยมีคณะกรรมการวัด และประชาชน สื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานและร่วมใจกิจกรรม

 

โดยพระอาจารย์ชินวรณ์ ฯ ได้นั่งทางในตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะสั่งให้คณะกรรมการวัดนำไม้มาปักในลานวัดเป็นอาณาเขตและกั้นเชือกบริเวณที่กำหนดเอาไว้ เนื้อที่ประมาณ 100-150  ตารางวา จากนั้นได้นิมนต์พระครูวินัยธรสมชาย  เจ้าอาวาส ขึ้นนั่งบนฐานแบ็กโฮขนาดเล็กเป็นปฐมฤกษ์ พร้อมให้คนขับรถแบ็กโฮจุดธูปบนบานขออนุญาตขุดค้นบริเวณลานวัด หลังจากนั้นคนขับรถแบ็กโฮได้ขับรถเคลื่อนเข้าไปในพื้นที่ขุดค้น และทำการขุดเป็นปฐมกฤษ์แล้วจึงให้พระครูวินัยธรสมชาย ฯลงจากรถแบ็กโฮ ก่อนที่คนขับรถจะเริ่มขุดเปิดหน้าดินเป็นบริเวณกว้างและค่อย ๆ ขุดลึกลงไปอย่างช้า ๆ ระมัดระวัง ท่ามกลางการลุ้นระทึกของพระภิกษุและคณะกรรมการวัดพร้อมชาวบ้านที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก

พระครูวินัยธรสมชาย สิริธโร เปิดเผยว่า วัดใหญ่รัตนโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี แต่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนักจนบางช่วงกลายเป็นวัดร้าง จนกระทั้งเมื่อ 5 ปีก่อนอาตมาได้มาจำพรรษาและต่อทางคณะสงฆ์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดใหญ่รัตนโพธิ์ ซึ่งอาตมาพยายามศึกษาค้นคว้าประวัติความเป็นมาพบว่าวัดใหญ่รัตน์โพธิ์อยู่ในพื้นที่ศาสนสถานโบราณ และเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณซึ่งเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ  ก่อนที่จะมีเมืองนครศรีธรรมราชเสียอีก จนมีการกล่าวว่า “โมคลานตั้งก่อน นครตั้งหลัง” รวมทั้งในพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ไปจนถึงพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช  ก่อนหน้านี้ทางมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ตั้ง “อาศรมวัฒนธรรม”มหาวิทยาลัยวลักษณ์ และร่วมกับกรมศิลปกรศึกษาและขุดค้นแหล่งโบราณคดีในพื้นที่พบโบราณวัตถุที่สำคัญกระจายอยู่เต็มพ้นที่จำนวนมาก

“การขุดค้นที่ผ่านมาดำเนินการในส่วนของแหล่งโบราณสถานวัดโมคลาน  แหล่งโบราณสถานวัดมเหยงค์(วัดร้าง)โบราณสถานวัดตุมปัง (วัดร้าง)โบราณสถานวัดเกาะพระนารายณ์ และแหล่งโบราณสถานวัดนางตรา รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นที่ดินของชาวบ้านพบโบราณสถานของพรหมณ์-ฮินดูจำนวนมาก จึงสรุปว่าสถานที่บริเวณนี้รวมไปถึงพื้นที่ อ.สิชล เป็นแหล่งชุมชนโบราณ ซึ่งในสมัยนั้นศาสนาพราหมณ์หรือฮินดูเจริญรุ่งเรื่องมาก่อนที่พุทธศาสนาจะเข้ามาเสียอีก หรือรวมพุทธศตวรรษที่ 12-14”

 

ในส่วนของวัดใหญ่รัตนโพธิ์  ซึ่งกลายเป็นวัดปิดและยังไม่ได้มีการขุดค้น จนอาตมาได้นอนหลับนิมิตฝันอย่างต่อเนื่องว่าภายในวัดโดยเฉพาะบริเวณลานหน้าวัดมีทรัพย์สมบัติและโบราณวัตถุมีค่าจำนวนมากฝังอยู่ใต้ดิน และมีดวงวิญญาณของเจ้านายผู้ใหญ่ในสมัยโบราณรวมทั้งวิญญาณอื่น ๆ เฝ้าสมบัติอยู่นานแล้ว และดวงวิญญาณทุกดวงอยากจะไปผุดไปเกิดแต่เป็นห่วงเรื่องสมบัติและโบราณวัตถุจะตกอยู่ในมือของคนชั่ว  จึงอยากให้อาตมมาขุดค้นนำขึ้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา  โดยอาตมาก็ไม่ได้สนใจมากนัก จนในระยะหลัง ๆ ทุกครั้งที่นอนหลับจะนิมิตฝันเหมือนเดิมทุกครั้งเหมือนกับว่าดวงวิญญาณบรรพบุรุษเหล่านั้นจะเร่งให้อาจมาเร่งดำเนินการในการจุดค้นสมบัติและโบราณสถานขึ้นมาจากใต้ดินโดยเร็ว

 

เจ้าอาวาสวัดใหญ่รัตนโพธิ์ กล่าวอีกว่า อาตมามีความตั้งใจว่าในบั้นปลายของชีวิตอยากจะพัฒนาฟื้นฟูวัดใหญ่รัตนโพธิ์ให้เป็นวัดศูนย์กลางในการศึกษาธรรม และประวัติศาสตร์ของบ้านเมือง  แต่เนื่องจากเป็นวัดเล็ก ๆ ในชนบทไม่มีปัจจัยเพียงพอที่จะดำเนินการได้  จนล่าสุดได้มีดวงวิญญาณผู้หญิงและผู้ชาย ไม่แน่ใจว่าเป็นสามี ภรรยากันหรือไม่แต่งกายแบบกษัตริย์ ที่อ้างว่าชื่อ “พระนางเจ้าเทวเพชร และพระเจ้านนเทวะ” มาเข้าฝันอีกว่าให้เร่งขุดค้นสมบัติและโบราณสถานกลางลานวัดใหญ่รัตนโพธิ์ และให้สร้างรูปปั้น“พระนางเจ้าเทวเพชร และพระเจ้านนเทวะ” ขึ้นภายในบริเวณวัด โดยทั้งสองจะช่วยในเรื่องการบูรณะ ฯพัฒนาวัดให้เจริญเอง  อาตมาจึงนำเรื่องไปกราบเรียนปรึกษาคณะสงฆ์ ผู้ใหญ่ จนได้รับการแนะนำให้ดำเนินการขุดค้นและสร้างรูปปั้นหรือรูปเหมือน“พระนางเจ้าเทวเพชร และพระเจ้านนเทวะ” จึงเริ่มประกอบพิธีบวงสรวงบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขออนุญาตดำเนินการขุดค้นเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 13 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา

 

ทางด้านพระอาจารย์ชินวรณ์ กิตติญาโณ เจ้าพิธี ฯกล่าวว่า จากการนั่งสมาธิ (ทางใน) ตรวจสอบพบว่าในพื้นที่ลานวัดมีสมบัติมีค่าและโบราณวัตถุฝังอยู่เป็นจำนวนมาก  และเริ่มขุดพบจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ อาทิ บาตรพระขนาดเล็กเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ และผอบเนื้อสัมฤทธิ์ ทั้งสองอย่างเป็นศิลปะนครในยุคต้น ๆ นิอกจากนี้ยังขุดพบเครื่องลายครามสมัยสุโขทัย และและโบราณวัตถุอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นโบราณวัตถุหลายยุคหลายสมัยมาก อายุตั้งแต่  800 ปีขึ้นไปแม้แต่โบราณวัตถุเก่าแก่ในยุคราชวงศ์เก่าของจีน ๆ ก็พบในพื้นที่ดังกล่าวด้วย  ทางวัดจะจัดทำรายการสมบัติและโบราณวัตถุที่ขุดพบทั้งหมดไว้อย่างละเอียด ล่าสุดพบโครงงกระดูดมนุษน์โบราณอีก ซึ่งทางวัดจะแจ้งให้สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช เข้ามาร่วมขุดค้นและตรวจสอบด้วย  โดยส่วนตัวอาตมาเชื่อว่าภายในวัดใหญ่รัตนโพธิ์เป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยอย่างแน่นอน. ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนะเสนอต่อไป.