ข่าวประจำวัน » #’เสี่ยตือ’ซัดคสช.หวังตีกิน ถาม’อาวุธสงคราม’เกี่ยวการเมืองตรงไหน

#’เสี่ยตือ’ซัดคสช.หวังตีกิน ถาม’อาวุธสงคราม’เกี่ยวการเมืองตรงไหน

2 December 2017
591   0

2 ธ.ค.60 นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงโฉมหน้า ครม.ประยุทธ์ 5 ว่า การปรับคณะรัฐมนตรีเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีมีข้อมูลและรู้ว่าครม.ชุดเก่าเป็นอย่างไร จึงต้องมีการปรับ ทั้งที่รู้ดีว่าการปรับแต่ละครั้งจะต้องกระเพื่อม นายกรัฐมนตรีจึงคิดว่า ต้องยอมเจ็บเพื่อให้ได้ภาพของครม.ใหม่ที่ดีที่สุด ที่ดีกว่า เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนและผู้ประกอบการทั้งหลาย ดังนั้น จึงเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ยอมเจ็บที่ทำให้กระเพื่อมเพื่อให้ได้ครม.ใหม่ที่คิดว่าน่าจะดีกว่าชุดที่แล้ว

ส่วนกรณีที่มีเสียงวิจารณ์ว่าขณะนี้รัฐบาลขาลงนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงพูดไม่ได้ว่าขาขึ้นหรือขาลง เพียงแต่คิดว่า นายกรัฐมนตรีปรับครม.เพื่อความเหมาะสม ปรับเพื่อเรียกศรัทธาเรียกความเชื่อมั่นให้กลับมา

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณี 2 พรรคใหญ่ จับมือจะไม่เอานายกฯคนนอก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ถ้าจะมาบอกว่า จะเอาคนนอกพรรคมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่ผลักดันคนในขึ้นมานั้น ถามว่าประชาชนจะมีความรู้สึกอย่างไร จึงไม่มีพรรคไหนที่จะมาบอกว่า หลังเลือกตั้งแล้วจะเอานายกฯคนนอกเข้ามา ยกเว้นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนนายกฯ ที่มาจากคนนอกเท่านั้น เช่นกรณีที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน กับพวกได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ และประกาศชัดเจนว่า จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก แต่นี่ไม่ใช่พรรคการเมืองที่เกิดขึ้นมาเก่าแก่ และต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การที่ คสช. ยังไม่ประกาศปลดล็อคให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมทางการเมืองนั้น อยากจะบอกว่า พรรคการเมืองทั้งหลายอยากสนองนโยบายรัฐบาล วันนี้ไม่มีใครอยากทำผิด พ.ร.บ.ประกอบและธรรมนูญ พ.ร.บ.กกต. หรือพ.ร.บ. ฉบับใดก็แล้วแต่ นอกจากไม่อยากทำผิดกฎหมายแล้วยังอยากจะสนับสนุนรัฐบาลให้ สามารถดำเนินการไปตามเป้าหมายและกฎหมายได้ด้วย

“การที่แต่ละพรรคการเมืองอยากจะให้มีการปลดล็อคทางการเมืองคือการสนับสนุนให้รัฐบาลได้ทำตามกฏหมาย แต่วันนี้ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงยังไม่ปลดล็อคให้พรรคการเมืองเขาได้ทำกิจกรรม จริงอยู่ ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด มีมาตรา 44 อยู่ในมือ ที่บอกว่าดีเลย์ไปนานแค่ไหน ก็สามารถชดเชยเวลานั้นโดยการใช้ มาตรา 44 ดำเนินการได้ แต่ถามว่า ความสง่างามและความเหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนี้มันจะคุ้มหรือไม่กับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะทำอย่างนั้น แต่ถ้าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง ผมคิดว่า จะได้รับเสียงชื่นชมสนับสนุนจากพรรคการเมืองและจากคนทั่วไปด้วยว่านายกฯพร้อม และก็อยากเห็น การเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้ ตราบใดที่ยังไม่ประกาศปลดล็อคทางการเมืองมันก็จะอึมครึมอยู่อย่างนี้ แต่ละคนยังไม่มีใครเชื่อมันเลยว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 นี้จริงหรือไม่ เพราะวันนี้คุณยังไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งที่กฎหมายเดินไปแล้ว รัฐธรรมนูญก็ประกาศใช้แล้ว พ.ร.บ. ประกอบพรรคการเมืองก็เดินไปแล้ว จึงเป็นเหมือนสัญญาณที่ส่งออกมาว่าต้องดีเลย์แน่ การที่พูดว่าจะมีการเลือกตั้งแน่คงไม่เหมือนกับการปฎิบัติ ถ้าบอกว่าให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้แล้วก็จะเหมือนเป็นการลั่นระฆังสัญญาณให้รู้ว่าการเมืองเดินหน้าแล้ว แต่วันนี้ยังไม่มีอะไรบอกเลยว่าการเมืองเดินหน้าเพราะทุกพรรคยังขยับไม่ได้”

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การที่บอกว่า ยังไม่ปลดล็อคทางการเมืองเพราะสถานการณ์ยังไม่สงบพบเจออาวุธนั้น ความจริงเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการเมืองแต่น่าจะเป็นเรื่องของความมั่นคง พบอาวุธก็ไปดำเนินการแต่นี่ไม่ได้เกี่ยวพันกับพรรคการเมืองตรงไหน ไม่มีเหตุผลที่จะบอกว่าพบอาวุธแล้ว บ้านเมืองยังไม่สงบทำให้การเมืองไม่สามารถเคลื่อนหน้าต่อไปได้ ไม่มีอะไรสัมพันธ์กันเลย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีประกาศกกต. ออกมาหลายฉบับนั้น ประกาศก็ประกาศไปแต่พรรคการเมืองยังทำอะไรไม่ได้แล้วจะเกิดประโยชน์ได้อย่างไร ประชุมพักไม่ได้ กำหนดแนวนโยบายพรรคใหม่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญก็ยังทำไม่ได้ พรรคไม่มีนโยบาย พรรคไม่มีเจตนารมณ์พรรคใหม่ แล้วจะขับเคลื่อนไปได้อย่างไร กกต. ประกาศก็ประกาศไป แต่ฝ่ายปฏิบัติ อยู่ที่คสช. ที่เป็นคนสั่งว่าทำอะไรได้ไม่ได้

Cr. Naewna

สำนักข่าววิหคนิวส์