น้องเซม เซมต้องบอกเลยว่า ทางด้าน กำนัน ต.หนองโรง จ.กาญจนบุรี พาลูกบ้านกว่า 50 ราย แจ้งตำรวจ หลังถูกสาวแสบวัย 41 อดีตเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ จ.กาญจน์ ฉายา “ดา หนองตากยา” หลอกเอาตัวจริงใบกำกับภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภบท.5 ของกลุ่มชาวบ้านไปปลอมแปลงเอกสารเปลี่ยนเป็นชื่อของตัวเองที่ อบต.โดยหลอกลวงว่าจะนำเงินมาให้กู้โดยทำสัญญาเงินกู้ไว้เป็นหลักฐานร้อยละ 5 บาทต่อเดือน บางรายได้เงิน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เงิน แล้วหายสาปสูญ ความแตกเมื่อมีกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบมาเก็บดอกเบื้ยพบว่า ชื่อผู้ครอบครองใบเอกสารภบท. 5 ทุกแปลงเป็นชื่อของนส.ดา หนองตากยา
สาวแสบ อะไรไม่ว่า วงเงินที่กลุ่มชาวบ้าน 17 หมู่ เขียนสัญญาเงินกู้ที่ได้เงิน กู้ 7 หมื่น แต่ในหนังสือสัญญาระบุเป็นหนี้แสนสี่ ส่วนรายที่ไม่ได้เงิน เป็นหนี้ระนาวหลายหมู่บ้าน มีกลุ่มชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อเบื้องต้นทยอยเข้าแจ้งความ 45 ราย ค่าเสียหายประมาณ 20 ล้านบาท ร้อนถึงกำนันต้องพาเข้าแจ้งความตำรวจเชื่อมีเจ้าหน้าที่ อบต.และผู้ใหญ่บ้าน บางคน ร่วมรู้เห็นเป็นใจในการปลอมแปลงเอกสาร ล่าสุด! หลังมีการแจ้งความร้องทุกข์ ตำรวจออกหมายเรียก นส.ดา สาวแสบให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 2 ครั้ง แต่ ดา หนองตากยา หายจ้อย หากพ้นกำหนดอยสอบปากคำ
ครอบครองทำกินมาหลายขั่วอายุคน จำนวนหลายร้อยแปลง พร้อมด้วยกำนันพากันแจ้งความตำรวจ ณ จุดบริการประชาชน หลังถูก ดา หนองตากยา อดีตเจ้าแม่เงินกู้วางแผนหลอกปลอมแปลงเอกสารใบ ภบท.5 ที่ชาวบ้านครอบครองทำกินนานหลาย 10 ปี ไปหลอกเอาเงินจากกลุ่มนายทุนหลายจังหวัด จำนวนกว่า 20 ล้านบาท โดยหลอกกลุ่มชาวบ้านว่า ใครเดือดร้อนมากู้ได้ กลุ่มชาวบ้านกว่า 50 ราย หลงเชื่อนำใบเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องงที ภบท.5 ไปค้ำประกันโดยคิดอัตตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน บางรายได้เงินแต่ยอดเงินกู้เพิ่ม ส่วนใหญ่ไม่ได้เงิน แถมมารู้อีกที่ ดา หนองตากยา สาวแสบวัย 42 รู้เห็นกับเจ้าหน้าที่ อบต.และผู้ใหญ่บ้าน บางคน แอบเอาเอกสารต้นขั้วใน อบต.ออกมาปลอมแปลงเป็นชื่อสาวแสบโดยมีผู้ใหญ่บ้าน เซ็นต์รับรองไปหลอกเอาเงินจากกลุ่มนายทุนเงินกู้ โดยที่กลุ่มชาวบ้านไม่รู้เรื่อง ความแตก เมื่อกลุ่มนายทุนเงินกู้ส่งคนไปเก็บดอกรายเดือน ชาวบ้านโวย เงินก็ไม่ได้แถมเป็นหนี้ ปรึกษากำนันพาเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ด้านตำรวจหลังรับแจ้งออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ ดา หนองตากยา ไม่โผล่หน้ามาให้เห็น เตรียมขออนุมัติหมายจับจากศาล 3 ข้อหาหนัก ทำธุระกิจคิดอัตตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ปลอมแปลงเอกสาร ฉ้อโกงประชาชน เบื้องต้นตำรวจเชื่อมีเจ้าหน้าที่ อบต. และผู้ใหญ่บ้านร่วมรู้เห็นเป็นในการปลอมแปลงเอกสาร
เวลา 10.00 น.ของวันที่ 12 ก.ค.60 ได้มีกลุ่มชาวบ้าน ชาย-หญิง กว่า 45 คน บ้านหลุมหิน 17 หมู่ ของ ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ได้ทยอยเดินทางมาที่จุดบริการประชาชน ต.หนองโรงฯ โดยมีนายสมนึก ด้วงเดข อายุ 49 ปี กำนันตำบลหนองโรง อ.พนมทวนฯ เป็นคนพากลุ่มชาวบ้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยนายสมนึก ด้วงเดช กำนัน ต.หนองโรง อ.พนมทวนจ.กาญจนบุรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ” สาเหตุที่กลุ่มชาวบ้าน 17 หมู่ ของ ต.หนองโรง อ.พนมทวนฯ ทยอยเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ทินกร โมกพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พนมทวนฯ ซึ่งได้รับคำสั่งจาก พ.ต.อ.สรรเสริญ แสงเนตรสว่าง ผกก.สภ.พนมทวนฯ หลังได้รับรายงานจึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ทินกร โมกพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พนมทวนฯ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนฯ เดินทางไปสอบปากคำกลุ่มชาวบ้านที่เสียหาย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พ.ค.60 ที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า ชื่อนส.ธนธรณ์ หรือดา ศรีสุข หรือดา หนองตากยา อดีตเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ของ ต.กาญจนบุรี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามทะเบียนราษฎร์ เลขที่ 16/5 หมู่ 7 ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
ได้มาหากลุ่มชาวบ้านในหลายหมู่ โดยทำทีสอบถามกลุ่มชาวบ้านว่า ใครที่กำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน สามารถช่วยเหลือหาเงินให้กู้ได้ คิดอัตตราดอกเบื้ยร้อยละ 5 บาทต่อเดือน แต่มีข้อแม้ว่า ต้องนำเอกสารใบบำรุงภาษีท้องที่ หรือใบ ภบท.5 มาค้ำประกันจึงจะได้เงิน ซึ่งกลุ่มชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ชาวนาก็หลงเชื่อ ต่างนำเอกสารใบ ภบท.5 และทะเบียนบ้านไปถ่ายเอกสารการเสียภาษีครอบครองที่ดินทำกินมานานหลายชั่วอายุคน มอบให้ นส.ธนธรณ์ ศรีสุข หรือดา หนองตากยาไป ชาวบ้นบางรายก็ได้เงิน ไปแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เงินต้องรอเก้อ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ก.ค.60 ที่ผ่านมา อยู่ได้มีลูกน้องของกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบเดินทางมาเก็บเงินซึ่งเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 5 ต่อเดือน บางรายที่เป็นหนี้เมื่อดูหนังสือสัญญาก็แทบลมจับ เพราะกู้เงินไปจำนวน 7 หมื่นบาท แต่ในหนังสือสัญญากับระบุยอดเงินเป็นแสนสี่หมื่นบาท บางรายที่มีที่ดินมากหน่อย กู้เงินแสนห้าหมื่นบาท ยอดเงินกลายเป็นสองแสนห้า กลุ่มชาวบ้านที่ได้และยังไม่ได้เงิน จึงต่างพากันสอบถามและเชื่อว่าน่าจะถูก นส.ธนธณ์ หรือดา ศรีสุข หลอกลวง จึงมาปรึกษาตน และเมื่อตรวจสอบไปที่ อบต.หนองโรง ทราบว่า นส.ธนธรณ์ ได้มาติดต่อขอคัดสำเนารายชื่อกับเจ้าหน้าที่ก่อนจะหายหน้าไป โดยเอกสารใบการเสียภาษีบำรุงท้องที่ หรือใบ ภยท.5 ที่กลุ่มชาวบ้านครอบครองนั้น จำนวนกว่ามากกว่า 30 รายที่ถูกปลอมแปลงเป็นชื่อผู้ถือครองเป็นชื่อของ นส.ธนธรณ์ ศรีสุข หรือดา เพื่อนำไปหลอกลวงและกู้เงินจากกลุ่มนายทุนเงินกู้ในจังหวัด
ด้าน พ.ต.ท.ทินกร โมกพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยสอบปากคำกลุ่มชาวบ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ก.ค.60 เป็นต้นมา กลุ่มชาวบ้านได้ทยอยมาพบพนักงานสอบสวนซึ่งได้รับแจ้งหลายคน ตอนนี้ได้ออกหมายเรียก นส.ธนธรณ์ หรือดา ศรีสุข ผู้ถูกกล่าวหาให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว หากยังไม่มาก็จะขออนุมัติออกหมายจับ เบื้องต้นตั้งข้อหา 3 ข้อ คือ 1.ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและคิดดอกเบี้ยเกินอัตตราที่กฎหมายกำหนด 2. ฉ้อโกงประชาชน 3.ปลอมแปลงเอกสารที่มีการเปลี่ยนชื่อผู้ทำประโยชน์ในใบ ภบท.5 ซึ่งน่าเชื่อว่า นส.ธนธรณ์ หรือดา ไม่ได้กระทำเพียงลำพังผู้เดียว เชื่อว่าน่าจะมีบุคคลอื่นร่วมกระทำผิดด้วย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับรายงานได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผกก.ภ.จว.ฯ ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบคดีดังกล่าวนี้ด้วย รวมทั้งได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สส.ภ.จว.ฯ นำกำลังลงพื้นที่ปูพรมติดตามค้นหา นส.ธนธรณ์ หรือดา หนองตากยา อดีตเจ้าแม่เงินกู้แสบรายนี้ เรื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนสนใจและมีประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
กลุ่มชาวบ้าน