7 ม.ค.61 Naewna นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และคณะทำงานฝ่ายกฏหมายพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากฟังการแถลงข่าวของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการตรวจสอบนาฬิกาหรูราคาแพงกว่าสิบเรือนที่ปรากฏอยู่บนข้อมือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พบว่ามีข้อกังขาในแนวทางการตรวจสอบหลายประเด็น

นายเรืองไกร กล่าวว่า หลักฐานสำคัญที่ปรากฏคือนาฬิกาหรูราคาแพงกว่าสิบเรือนนั้น ป.ป.ช.ต้องตั้งประเด็นสอบเพิ่มเติมตั้งแต่ ทำไมไม่มีการยื่นแสดงรายการบัญชีมาก่อน เมื่อพบว่าทรัพย์สินมีอยู่จริง การอ้างพยานหลักฐานมาแก้ต่างฟังขึ้นหรือไม่ หากฟังไม่ขึ้น จะถือว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติจนเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ มูลเหตุที่ร่ำรวยผิดปกติเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจที่ส่อไปในทางมิชอบและเป็นการไปเอื้อประโยชน์บุคคลใดหรือไม่ เรื่องนี้ไม่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด หากพิจาณาจากที่ ป.ป.ช.เคยตรวจสอบนาฬิกาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขายไปก่อนดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ยังไปตรวจสอบโดยอ้างว่าเรื่องดังกล่าวปรากฏเป็นข่าวและเป็นที่สนใจของสาธารณชน จึงมีความจำเป็นต้องทราบข้อเท็จจริงและเอกสารที่เกี่ยวกับความมีอยู่จริงของนาฬิกาเพื่อตรวจสอบว่า นาฬิกานั้น ให้ใครไปซื้อ ซื้อยี่ห้อใด รุ่นใด จากที่ใด ต่อมาขายให้ใคร มูลค่าเท่าใด ชำระราคาอย่างไร
ดังนั้น เมื่อเทียบกับกรณีของ พล.อ.ประวิตร ป.ป.ช.ก็ต้องตรวจสอบในทำนองเดียวกันและน่าจะสรุปข้อเท็จจริงได้แล้วว่า ในเมื่อรับว่ามีนาฬิกาอยู่จริงตามที่เป็นข่าว แปลว่าข้อเท็จจริงมีมูลแล้ว ป.ป.ช.ต้องทำตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและไต่สวนชี้มูลต่อไปว่ามีการจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ ซึ่งไม่ควรเกิน 30 วันนับจากนี้ เพราะสอบมาแล้วกว่า 30 วัน เพราะข้อเท็จจริงของนาฬิกาที่ปรากฏกว่าสิบเรือนนั้นเกินเพียงพอแล้ว จึงหวังว่า ป.ป.ช.จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยตนจะยื่นหนังสือร้องเพื่อให้ ป.ป.ช.ในวันที่ 8 ม.ค.นี้ เวลา 10.30 น.ที่ ป.ป.ช.สนามบินน้ำ เพื่อทำการตรวจสอบตามประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมด้วย โดยเฉพาะการขออายัดนาฬิกาทั้งหมดมาไว้ก่อน
สำนักข่าววิหคนิวส์

