ข่าวประจำวัน » ข่าวบันเทิง » #เมียไม่ยอมหย่า ไทด์ ห่วงหนี้สิน-ตายปุบปับลูกเมียจะเดือดร้อน!!

#เมียไม่ยอมหย่า ไทด์ ห่วงหนี้สิน-ตายปุบปับลูกเมียจะเดือดร้อน!!

1 November 2017
432   0

กลายเป็นเรื่องคาราคาซังต่อไป สำหรับปัญหาชีวิตคู่ของ ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ กับภรรยา ยุ้ย คนึงนิจ ที่ยืดเยื้อมานานร่วมปี โดยฝ่ายชายยื่นข้อเสนอไปแล้วด้วยการขอหย่า ล่าสุดมีโอกาสเจอ หนุ่มไทด์ มาร่วมงานบวงสรวงละคร จ้าวสมิง ที่บริษัท โคลีเซี่ยม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จึงได้อัปเดตให้ฟังว่า จนถึงตอนนี้ภรรยาก็ยังไม่ยอมเซ็นใบหย่า ซึ่งตนก็ไม่คิดที่จะฟ้องหย่า และจะไม่ไปบังคับขู่เข็ญเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา ทุกวันนี้ชีวิตก็มีความสุขดีแล้ว ใบหย่าจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ที่ตนเป็นห่วงคือภาระหนี้สินต่างๆ ที่อยากให้ภรรยาโอนทุกอย่างมาให้ก่อน เพราะถ้าตนตายไปปุบปับ ทางภรรยาและลูกๆ ก็จะเดือดร้อนต้องแบกรับภาระหนี้สินแทนทั้งหมด จึงแพลนไว้ว่าจะเข้าไปคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังอีกครั้ง

“ตอนนี้ยังไม่มีการเซ็นใบหย่าครับ ก็ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดี ผมไม่ต้องการอะไร ถ้าน้องเขาไม่เซ็นให้ก็ไม่เป็นไร ก็เก็บไว้ ไม่มีการติดต่อพูดคุยครับ ตั้งแต่มีเรื่องปีกว่าๆ ก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลย ผมก็บอกลูกๆ ว่าถ้าเกิดพ่อกับแม่อะไรยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ ไปกับลูกไม่เป็นไร ขอให้เป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง ผมเองเป็นคนยื่นข้อเสนอหย่าคือมันก็มีเรื่องราวต่างๆ ถ้าเขาไม่หย่าก็ไม่เป็นไร ผมถือว่ามันเป็นสิทธิ์ของเขา เราจะไปบังคับขู่เข็ญมันก็ไม่ใช่ผม ผมพูดกับเขาดีๆ ว่าหย่ากัน ไม่หย่าก็ไม่เป็นไร”

“สำหรับผมเองผมไม่มีใครหรือมือที่ 3 อะไรต่างๆ ถ้าเกิดว่าผมจะคบใครหรือเจอใครสักคนที่จะต้องใช้ใบหย่า ผมว่าไม่จำเป็นนะ ใบหย่ามันก็เหมือนกฎหมายให้เรารู้ว่าเป็นสามีภรรยากัน จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย อยู่ด้วยกัน ประกาศให้ทุกคนรู้ว่านี่คือภรรยา นี่คือสามี แต่เราแยกกันอยู่เกือบ 3 ปีแล้วนะ ถ้าเกิดว่าผมจะมีใครชอบใครก็ต้องบอกเขาแล้วว่าใบหย่านี่ไม่สำคัญได้มั้ย ถ้าจะอยู่กัน รักกันหรือยังไง คือผมจะไม่แต่งงานอีก จะไม่จดทะเบียนสมรสกับใครอีกได้มั้ย ถ้าได้ก็โอเคจบไม่มีปัญหา”

“เขาบอกเขาไม่หย่า (หัวเราะ) เขาก็อยู่ไปอย่างนี้ ไม่รู้สิ ผมก็เดาใจเขาไม่ออกว่าเขาคิดอะไรต้องการอะไร ถ้าเกิดเขาพูดมาผมยังสบายใจซะกว่าว่าเขาต้องการอะไร ถ้าเกิดผมจัดการให้ได้ผมก็จะจัดการให้ แต่นี่เขาเงียบๆ เราก็ปล่อยให้เงียบไป ชีวิตผมก็ทำงานเพื่อสังคมแบบนี้อยู่ตลอดเวลา กับลูกได้เจอครับ ลูกมาอยู่กับผมวันศุกร์-อาทิตย์ จันทร์ไปส่งโรงเรียน อังคาร-ศุกร์ก็อยู่กับเขา ตอนเย็นศุกร์ผมก็ไปรับมา (ความสัมพันธ์ไม่สามารถต่อกันติดแล้วใช่มั้ย?) ความรู้สึกของผมดูแล้วเป็นเพื่อนกันดีกว่า มันจะได้เก็บความรู้สึกดีๆ เอาไว้ เก็บความรู้สึกเรื่องราวต่างๆ ที่เราเคยเป็นครอบครัวกันไว้”

ะ”ลูกๆ ก็ถามครับ ผมก็บอกลูกทุกอย่างว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อตัดสินใจแล้วลูกๆ ก็เห็นด้วยตั้งแต่ตอนแรก แต่ถ้าอยากไปไหนกับพ่อ อยากไปไหนกับแม่ อยากไปไหนที่มีพ่อกับแม่ก็สามารถทำได้ อย่างหลายๆ คู่ที่เขาเลิกกันไปแล้วเขาก็ยังไปเที่ยวกันได้ อย่างไปต่างจังหวัดก็ไปกันเป็นครอบครัวเหมือนเดิมได้ แต่สถานะคือเป็นเพื่อนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับ ผมเคยอยากจะคุยนะ คิดว่าหลังจากปีนี้จะเข้าไปคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวว่าจะเอายังไง เขาต้องการอะไร”

“ถ้าตกลงไม่ลงตัว ผมไม่คิดที่จะฟ้องร้องเขานะ เพราะว่าเราไม่มีอะไร เราไม่มีคนที่จะมาเร่งรัดว่าทำไมไม่หย่าสักที ผมก็อยู่ของผมอย่างนี้ไป ไม่รู้จะฟ้องร้องเขาเรื่องอะไร (หัวเราะ) ไม่หย่าก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องฟ้องร้อง ที่ผมจะเข้าไปคุยก็คือเรื่องธุรกรรมต่างๆ นี่แหละที่เราต้องผ่อนบ้านอะไรต่างๆ สมมติผมเกิดเป็นอะไรขึ้นมาปุบปับเขาต้องรับผิดชอบแทนผมเลยนะ สิ่งที่ผมผ่อนมาหรือเรื่องธุรกรรมการเงินต่างๆ เขาต้องทำต่อจากผมเลยนะ ผมจะเข้าไปคุยกับเขาเรื่องนี้แหละ ว่าเขาไม่หย่าไม่เป็นไร แต่ขอให้โอนค่าบ้าน ค่าที่ดินอะไรที่ต้องผ่อนอยู่ขอให้เป็นของผมคนเดียว เกิดเป็นอะไรขึ้นมาเขาจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน ลูกจะได้ไม่ต้องเดือดร้อน”

“สาเหตุหลักๆ ที่ต้องการหย่า มันมีเรื่องราวเยอะแยะมากมายนะครับในครอบครัว เราก็ประคับประคองกันมาเพื่อลูก แต่มาวันนึงผมได้ออกข่าวไปแล้วว่าผมรับไม่ได้กับการที่ทำร้ายร่างกาย ผมก็คิดว่าชีวิตคู่ของผมกับเขาก็ต้องยุติลง อย่างอื่นผมรับได้ จะทำอะไรผมก็ได้ จะด่าอะไรผมไม่เคยว่า ไม่เคยโกรธ แต่มาทำร้ายร่างกายต่อหน้าลูกนี่ผมสุดๆ แล้ว ผมก็เลยต้องขอเขาหย่า (กลัวลูกๆ จะมีปัญหามั้ยเห็นภาพความรุนแรง?) ก็กลัวเหมือนกันนะครับ ครูที่โรงเรียนบางทีก็มาปรึกษาผมเหมือนกัน มีคนนึงที่เขาเครียด เราก็มาพูดคุยกัน ไม่ใช่ลูกจะไม่ได้เจอพ่อ ไม่ได้เจอแม่ ไม่ใช่อย่างนั้น เขาก็เริ่มเข้าใจ สภาพจิตใจผมโอเคครับ ผมได้ดูแลพี่น้องคนไทย ได้ดูแลลูกๆ ได้ดูแลครอบครัว ซึ่งผมเองก็เป็นเสาหลักนะครับ ก็เป็นห่วงเขานี่แหละถ้าวันนึงผมเป็นอะไรปุบปับตายขึ้นมา เขาเสร็จเลย หนี้สินต่างๆ เขาก็ต้องรับคนเดียว (ถ้าหย่าจริงๆ ลูกจะต้องอยู่กับใคร?) ก็เหมือนเดิม ผมคิดว่าใบหย่าใบนึงมันไม่ได้สำคัญสำหรับผมแล้ว” ไทด์ กล่าว

Cr.gossipstarmthai

สำนักข่าววิหคนิวส์