.
จากกรณีมีการตรวจสอบพบเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ซุกอยู่ในลังพลาสติก ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์ ชั้น 4 ตึก P 2 คอนโดเมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการสืบสวน ต่อมานายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ได้มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของเงินสดดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่าลืมไว้เนื่องจากต้องการเข้าซ่อมห้องที่เกิดน้ำท่วม โดยเงินจำนวนนี้ เบิกมาจากธนาคาร เก็บมาตั้งแต่ปี 63 เนื่องจากเป็นทนาย และเป็นที่ปรึกษาบริษัทเอกชนอีก 4-5 บริษัท และเป็นอนุกรรมการที่ปรึกษาประจำ กสทช.รายหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2565 ด้วย อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงต้องกลับไปรวบรวมข้อมูลมายืนยันอีกครั้ง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เคยได้รับเชิญจากพลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ อดีตกรรมกร ป.ป.ช. มาเป็นที่ปรึกษา และร่วมเป็นอนุกรรมการไต่สวนคดีสำคัญของ ป.ป.ช.หลายคดี เนื่องจาก พลเอก บุณยวัจน์ เคยทำงานที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช. ) และนายทวีวัฒน์ เคยอยู่ กสทช. เลยดึงมาช่วยงานอนุไต่สวน ปัจจุบันก็ยังเป็นอนุกรรมการไต่สวนคดีร่ำรวยผิดปกติของ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. ด้วย
“นอกจากนี้ นายทวีวัฒน์ ยังมีสถานะเป็นสามีข้าราชการ ป.ป.ช.ระดับผู้อำนวยการด้วย ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งกรณีเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ป.ป.ช.ก็คงจะต้องเข้าไปดูว่า มีแจ้งอยู่ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ หรือไม่” แหล่งข่าวระบุ
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า เกี่ยวกับการทำหน้าที่อนุกรรมการชุดต่างๆ ถ้ากรรมการ ป.ป.ช.รายเก่าหมดวาระ ถ้าอนุกรรมการรายใดไม่มีปัญหา ก็จะให้อนุกรรมการรายนั้นทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ
อนึ่ง สำหรับ พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ เป็นอดีตนายทหารสายตรวจสอบ จบปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) ปริญญาบัตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 47 ก้าวหน้าในวิชาชีพด้วยการดำรงตำแหน่ง ผอ.กองตรวจสอบและวิเคราะห์ สำนักงานปลัดบัญชี กองทัพบก ในปี 2539 ก่อนขึ้น ผอ.กองสำรวจและจัดหน่วย สำนักงานปลัดบัญชี ปี 2543 ต่อมาในปี 2545 เป็นผู้ช่วยปลัดบัญชีทหารบก ถัดมาอีก 2 ปี ในปี 2547 เป็น ผอ.สำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก ต่อมาในปี 2552 ขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม และท้ายสุดในปี 2554 เป็น ผอ.สำนักงบประมาณกลาโหม และเป็นประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. หรือซูเปอร์บอร์ด กสทช.ก่อนจะเริ่มเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 ก่อนที่จะพ้นตำแหน่งในช่วงเดือนมีนาคม 2566 เนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ส่วนนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ในช่วงปี 2565 – ปัจจุบัน ปรากฏชื่อเป็นคณะอนุกรรมการสำคัญของ กสทช.หลายชุด อาทิ คณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่าง บริษัท ทรู คอร์ ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำากัด (มหาชน) ด้านกฎหมาย คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นต้น