สกู๊ปข่าว » #เบื้องลึกและให้จับตา! ผลโหวตผ่านแก้รธน.วาระ 3

#เบื้องลึกและให้จับตา! ผลโหวตผ่านแก้รธน.วาระ 3

10 September 2021
555   0

 

เบื้องลึกและให้จับตา

ผลโหวตผ่านแก้รธน.วาระ 3

ไม่ใช่เสียงแตก แต่เป็นการเล่นตามเกม ทั้งส.ส. รัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้ง ส.ว.กับการโหวตวาระ 3 แก้รธน.

เพราะกระทั่งก่อนโหวต บางคนบางกลุ่ม ก็ยังลังเลจะเลือกข้างไหนดี หากโหวตให้ผ่าน จะมั่นใจอย่างไรว่าจะได้เปรียบจากบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

ส.ส.จากพรรคใหญ่ฝ่ายค้านบางส่วนที่ฝ่ายกุมอำนาจรัฐเจรจาหรือทาบทามไว้ จะย้ายเข้่าสมทบเมื่อถึงเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่รู้ว่าจะของจริงหรือแค่ลมปาก เพราะรู้ซึ้งดีว่านักการเมืองไทย ไม่เคยมองอะไรล่วงหน้านานๆ

ผลประโยชน์มา ได้มากกว่าเสียก็ตัดสินใจปุบปับได้ ไม่ต้องมีเหตุมีผลอะไรมาก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้นๆ ว่าใครมีโอกาสมากกว่ากัน คะแนนนิยมใครดีกว่า และใครมือเติบมากกว่ากัน

เสียงโหวตของพปชร.และ ส.ว.จึงออกมาอย่างที่เห็น ท่ามกลางกระแสฟรีโหวต เพื่อลดข้อครหา และให้ดูดีที่สุด เพราะจะว่าไปแล้ว ก็เป็นร่างที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล หากให้ตกไปทั้งหมด ก็คงได้เห็น ‘ทัวร์ลง’อย่างไม่ต้องสงสัย ยังไม่นับแม่น้ำทั้ง 5 ที่รัฐบาลต้องสรรหามาอธิบายประชาชน

อย่าลืมว่า การแก้ไขรธน.เป็นทั้งนโยบายเร่งด่วน 1 ใน 12 ข้อ และเป็น 1 ในนโยบายหลักของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาด้วย

ส.ส.พรรคขนาดกลาง อย่างน้อย 2 พรรคชูแนวทางงดออกเสียง เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาได้สอนให้รู้ พรรคภูมิใจไทย ลงสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรก ปี 2554 อุตส่าห์ไปสรรหานโยบายประชานิยมสาระพัดอย่างมา
สู้ศึกในกติกาบัตร 2 ใบ สุดท้ายก็แพ้ต้นตำหรับหมดรูป ได้ส.ส.เขต 29 คน ได้คะแนนระบบพรรค 1.28 ล้านเสียง คิดคำนวณแล้ว ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพียง 5 คน รวม 2 ประเภท 34 คน

ขณะที่เพื่อไทย ได้ส.ส.เขต 204 คน ได้คะแนนเลือกพรรค 15.7 ล้านเสียง คิดคำนวณส.ส.ปาร์
ตี้ลิสต์ได้มากถึง 61 คน ทำให้มีส.ส.รวม 265 คน

ต่างจากเลือกตั้ง 2562 ตามกติกาจัดสรรปันส่วนผสม บัตรเลือกตั้่งใบเดียว ปรากฎภูมิใจไทยได้คะแนนรวมถึง 3.73 ล้านเสียง ได้ส.ส.เขต 39 คน และได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีก 12 คน ทำให้มียอดรวมส.ส.51คน (ก่อนจะได้ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่อีก 10 คน รวมเป็น 61 คน)

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ ลงเลือกตั้งส.ส.ครั้งแรกด้วยกติกาจัดสรรปันส่วนผสม บัตรเลือกตั้่งใบเดียว ได้คะแนนรวม 6.26 ล้านเสียง ได้ส.ส.เขต 30 คน และได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 50 คนจากวิธีคิดคำนวณส.ส.แบบใหม่ ส่งผลให้มีส.ส.รวม 80 คน มากเป็นอันดับ 3 ชนิด’ช็อค’กันทั้่งประเทศ

เมื่อต้องกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และใช้วิธีคิดคำนวณตามรธน.40 ทั้ง 2 พรรคจึงประกาศจุดยืนงดออกเสียง

ส่วนพรรคการเมืองขนาดเล็ก โดยเฉพาะพรรคที่มีส.ส.เพียง 1 คน จากวิธีนับคะแนนตามกติกาจัดสรรปันส่วนผสม ในการเลือกตั้ง มี.ค.62 แสดงจุดยืนโหวตคว่ำ ทันที เพราะจะเสียเปรียบพรรคการเมืองใหญ่หากกลับไปใช้กติกา รธน. 40 ซึ่งมีข้อกำหนดคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ตกน้ำทันที หากได้น้อยกว่า 5% นั่นหมายถึง คะแนน 3-4 หมื่นเสียงที่ได้จากเลือกตั้่ง 62 จนถูกโจมตีอย่างหนัก จะสูญเปล่า ไม่มีสิทธิ์ได้ส.ส.1 คนเหมือนครั้งที่ผ่านมา

สำหรับพรรคเพื่อไทย แม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็เทคะแนนสนับสนุนร่างแก้ไขอย่างชัดเจน เพราะผ่านประสบการณ์โชกโชนมาตั้่งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องพลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ประกอบกับมีความพร้อมทั้งปัยจัย บุคคลากร และคอนเนคชั่นกับพรรคการเมืองและนักการเมืองแทบทุกฝ่าย ที่สำคัญ มีภารกิจ’หนี้แค้น’รอเวลาชำระ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ยังถูกยกเป็น’ตัวเก็ง’ที่จะได้อานิสงส์ จากการกลับไปใช้กติกาเดิม

ผลโหวตวาระ 3 ที่ออกมาจึงไม่ใช่เรื่องสับสนอลหม่าน แต่ประการใด แต่เป็นการสะท้อนจุดยืนแต่ละพรรค แต่ละฝ่าย

ที่น่าจับตาจึงเป็นเรื่องวิธีคิดคำนวณหาส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ที่จะกำหนดรายละเอียดที่แจ่มแจ้งในร่างแก้ไข พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ที่จะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป แต่ก็ห้ามมองข้ามกระแสข่าวเตรียมจูบปากจับมือแชร์อำนาจกันของ 2 พรรคการใหญ่เด็ดขาด

 

ตอกย้ำ การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร

 

ประจักษ์ มะวงศ์สา