น้ำแข็งบอกเลยว่าตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องช่วยคนที่อยู่ในรถให้รอด แม้ไม่รู้ว่ากี่คนก็ตาม จึงได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงใส่คนร้าย โดยใช้รถตัวเองเป็นที่กำบังคมกระสุน จากนั้นตะโกนให้พลขับส่งปืนยาวมายิงสู้กับคนร้ายอีกกระบอก กระทั่งคนร้ายได้ถอยไป
จากกรณี เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงชาวบ้านในพื้นที่ ม.3 ต.ลุโบะยิไร อ.มายอ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ แค็บสีดำ ทะเบียน ผธ 1858 สงขลา จอดริมถนนสายปาลัส-ทุ่งยางแดง ใกล้กับโรงเรียนบ้านตะบิงตีงี สภาพรถมีรูกระสุนหลายแห่งและมีรอยเลือดจำนวนมากในรถ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นพ่อลูก ถูกนำส่ง รพ.มายอ ทราบชื่อคือ นายอภิวิชญ์ ดอนพล อายุ 37 ปีมีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม.เข้าลำตัว 2 นัด และนายกิตติศักดิ์ ดอนพล อายุ 54 ปี เป็นพ่อ ถูกยิงที่ลำตัวเช่นกัน ทั้ง 2 คน ถูกนำส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ปัตตานี
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบว่าได้มีทางด้าน ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ ผู้ช่วยฝ่ายการข่าว ฉก.ปัตตานี ได้ยิงต่อสู้กับคนร้ายที่ กำลังก่อเหตุยิงชาวบ้านที่อยู่ในรถ จนทำให้คนร้ายต้องหลบหนีไปนั้น ล่าสุดทางด้าน ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ เปิดใจ ว่าช่วงที่เกิดเหตุนั้น ตนเองมาจากหาข่าวในพื้นที่ อ. ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยกำลังจะกลับฐาน ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก มีพลขับ ขับรถให้ ขณะที่มาถึงที่เกิดเหตุ ตนได้ยินเสียงปืน จึงให้พลขับหยุดรถ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 เมตรแล้วรีบลงไปดู จึงเห็นคนร้ายระดมยิงสาดกระสุนใส่รถชาวบ้าน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องช่วยคนที่อยู่ในรถให้รอด แม้ไม่รู้ว่ากี่คนก็ตาม จึงได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงใส่คนร้าย โดยใช้รถตัวเองเป็นที่กำบังคมกระสุน จากนั้นตะโกนให้พลขับส่งปืนยาวมายิงสู้กับคนร้ายอีกกระบอก กระทั่งคนร้ายได้ถอยไป ซึ่งเป็นจังหวะอาสามาถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงเข้าช่วยผู้บาดเจ็บ 2 คนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่ทางด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี ผู้บังคับบัญชา ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ เปิดเผยว่าได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากข่าวแล้ว และถือเป็นการต่อสู้ที่ห้าวหาญมาก ที่ยิงต่อสู้กับคนร้าย 1 ต่อ 4 จนสามารถรักษาชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ไว้ได้ถึง 4 คน แม้จะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าว แต่ด้วยจิตวิญญาณชายชาติทหารต้องขอชื่นชม พร้อมประสานให้ ร.อ.รักษ์ศักดิ์ ชัยกิจ เขียนรายงานวันเกิดเหตุให้ทราบ เพื่อมอบรางวัลสู้รบตามระเบียบกองทัพบก และเป็นขวัญกำลังในการทำหน้าที่ต่อไป