‘ฮุน มาเนต’ แจงกรณีปิดด่านชายแดน หลังได้รับหนังสือขอผ่อนผันจากไทย ยันกัมพูชาไม่ใช่ฝ่ายเริ่ม พร้อมเปิดด่านถาวรภายใน 5 ชั่วโมง หากไทยยอมรับเงื่อนไขไม่ปิด-เปิดด่านตามอำเภอใจ
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Hun Manet ถึงเรื่องฝ่ายไทยส่งหนังสือขอผ่อนผันการปิดด่าน โดยระบุข้อความว่า ตามที่เช้าวันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. 2568 ทางการกัมพูชาได้รับหนังสือจากหน่วยงานในจังหวัดสระแก้วของไทย ซึ่งร้องขอให้เปิดด่านชายแดนกัมพูชา-ไทยบางแห่ง และอนุญาตให้รถบรรทุกสามารถเข้า-ออกได้ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนนั้น ทางการกัมพูชาขอส่งสารชี้แจงมายังประชาชนของทั้งสองประเทศ ดังนี้
1. กัมพูชาเข้าใจเป็นอย่างดีถึงความยากลำบากของทั้งฝ่ายกัมพูชาและไทยที่ได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดน ด้วยเหตุนี้กัมพูชาจึงไม่เคยใช้มาตรการปิดด่านมาก่อน นับตั้งแต่เกิดการปะทะในพื้นที่มอมเบย เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2568 เพราะพวกเราไม่ได้มีเจตนาที่จะขยายพื้นที่พิพาท หรือสร้างปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการค้าขายของประชาชนชาวไทยและกัมพูชาตามแนวชายแดน
2. กัมพูชาไม่ใช่ฝ่ายเริ่มการปิดด่านก่อน แต่เป็นกองทัพไทยที่เริ่มปิดด่านชายแดน ปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิด และกำหนดเงื่อนไขการเดินทางของประชาชนแต่เพียงฝ่ายเดียวมาตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน จนกระทั่งวันที่ 24 มิถุนายน 2568 รัฐบาลไทยได้ประกาศปิดด่านทั้งหมดโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
3. ความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในจุดยืนทางการเมืองของรัฐบาลไทย ประกอบกับความไม่สอดคล้องกันระหว่างหลักการที่ผู้นำทางการเมืองไทยนำเสนอกับการปฏิบัติจริงในพื้นที่โดยกองทัพไทย ได้สร้างอุปสรรคต่อการหาทางออกที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม และยั่งยืน
4. ดังที่ข้าพเจ้าได้เคยกล่าวไว้หลายครั้งว่า การแก้ไขปัญหาการปิดพรมแดนเป็นเรื่องง่าย หากฝ่ายไทยซึ่งเป็นผู้ดำเนินการปิดพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียวมาตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ยอมเปิดด่านกลับสู่สถานะปกติ และให้หลักประกันที่ชัดเจนว่าจะไม่มีการปิดและเปิดด่านตามอำเภอใจอีก เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และกัมพูชาจะเปิดด่านชายแดนฝั่งกัมพูชาอย่างถาวร ภายใน 5 ชั่วโมงหลังจากนั้น
นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตย้ำว่า ขณะนี้ กุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาอยู่ในมือของฝ่ายไทย ดังนั้น สำหรับหน่วยงานทางการไทยและประชาชนชาวไทยที่ต้องการให้พรมแดนกัมพูชา-ไทยกลับมาเปิดอีกครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องมาร้องขอกัมพูชา แต่โปรดไปร้องขอผู้มีอำนาจที่แท้จริงในประเทศไทย ให้เปิดพรมแดนกลับสู่สถานการณ์ปกติเหมือนก่อนวันที่ 7 มิถุนายน 2568 และให้คำรับรองที่ชัดเจนว่าจะไม่มีการปิดและเปิดด่านตามอำเภอใจอีก แล้วทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ