เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #อ้าว..เรื่องนี้มีพลิก..!!หมอลืมเงินล้านไว้บนรถเมล์

#อ้าว..เรื่องนี้มีพลิก..!!หมอลืมเงินล้านไว้บนรถเมล์

29 July 2017
1018   0

           กรณีพนักงานเก็บเงินรถประจำทาง ขสมก. สาย ปอ.511 (สายใต้ใหม่ – ปากน้ำ) เก็บกระเป๋าที่มีเงินกว่า 1,120,000 บาท ส่งคืนเจ้าของที่เป็นเเพทย์สูตินารีเวช ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าของเงิน ได้เดินทางมารับกระเป๋า พร้อมมอบขนม 2 กล่อง ที่อยู่ในกระเป๋าเป็นสินน้ำใจก่อนเกิดดราม่าในโลกออนไลน์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น



               29 กรกฎาคม 2560 เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้มีการโพสต์ข้อความของหมดคนดังกล่าว โดยมีข้อความระบุว่า “คำแถลงของหมอที่ลืมเงิน เป็นคนละเรื่องกับข่าวเลย คนในข่าวคือผมเอง แต่เนื้อหาในข่าวบิดเบือนจากความจริงไปมากความจริงคือผมลืมกระเป๋าไว้ในรถจริงเพราะถือกระเป๋ามาหลายใบและขณะลงรถกำลัง คุยโทรศัพท์อยู่ เป็นความสะเพร่าจริงๆ แต่พอลงจากรถก็นึกได้และเรียกแท็กซี่ตามไปทันทีใช้เวลาประมาณ 5 นาทีห่างจากที่ ลงจากรถถัดมาบนแท็กซี่ประมาณ 2 นาที ผมโทรไปคอลเซนเตอร์ของ ขสมก. ให้ช่วยแจ้งพนักงานขับรถและ จนท.เก็บค่าโดยสารให้ช่วยเก็บกระเป๋าไว้ให้ และช่วยประสานงานกับทางอู่ปลายทางให้ช่วยเก็บกระเป๋าไว้โดยไม่ได้บอกว่าภายในกระเป๋ามีอะไร
          ระยะห่างจากจุดที่ลืมไว้ถึงอู่ประมาณ 8 กิโลเมตร ก่อนถึงอู่ประมาณ 1 กิโลเมตร เริ่มจับสัญญาณว่ามีคนเปิด ipad ในกระเป๋า ตำแหน่งอยู่ที่อู่รถ พอไปถึงพบว่ากระเป๋าอยู่ที่อู่รถ มีเจ้าหน้าที่ปล่อยคิวรถกำลังรื้ออค้นกระเป๋าอยู่ รวมถึงแกะซองเงินภายในออกมาดูด้วยโดยไม่ทราบว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ ผมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของและขอกระเป๋าคืน เจ้าหน้าที่อู่แจ้งว่าพนง.เก็บเงินเป็นคนเอามาฝากไว้โดยที่ไม่ทราบว่าข้างในเป็นอะไร บอกว่าหนักๆมีคนลืมไว้ เป็นไปตามระบบที่จะต้องเอาของไปฝากไว้ที่อู่
            ตอนแรกแกะออกมาเจอขนม พนงเ.ก็บเงิน ยังบอกว่าวันนี้มีขนมให้ลูกที่บ้านกินแล้ว แล้วก็เดินออกไปจากบริเวณ พนง.อู่เห็นว่ากระเป๋ายังหนักอยู่ เลยรื้อค้นกระเป๋าต่อ จึงเจอซองใส่เงิน บอกว่าไม่ทราบว่าเป็นอะไร คลำจากข้างนอกคิดว่าเป็นเงินเลยลองเปิดดูพบว่าเป็นเงินจริงๆ แต่พนง.ที่อู่ ขอโทษที่ถือวิสาสะรื้ออคนกระเป๋าโดยให้เหตุผลว่าเพื่อตรวจดูเพื่อความปลอดภัย ผมไม่ค่อยโอเคที่ถูกรื้อกระเป๋า แต่เหตุผลพอเข้าใจได้ นับเงินแล้วยังอยู่ครบก็ไม่ได้ติดใจอะไร

ความเป็นจริง
1.พนง.เก็บเงินที่นำส่งไม่รู้ว่าของในกระเป๋าเป็นอะไรก่อนส่งให้อู่

2.ผมเป็นคนไปเอาคืนด้วยตัวเองที่อู่ ไม่ได้มีคนเอากระเป๋ามาคืน หรือนำไปส่งสถานีตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของ ผมรู้ว่าลืมแทบจะทันที และได้แจ้งคอลเซนเตอร์แทบจะทันทีหลังจากนั้นและก่อนกระเป๋าเดินทางถึงอู่ ความเป็นจริง อู่ไม่มีสิทธิในการรื้อค้นกระเป๋าเพราะผมแจ้งอยู่แล้วว่ากำลังจะไปเอา ถ้าเพื่อความปลอดภัยที่อ้าง ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจค้น ไม่ใช่รื้อค้นด้วยตัวเอง แต่เงินที่ได้ยังอยู่ครบเลยไม่ได้ติดใจอะไร ขนม 2 ถุงคือให้เป็นสินน้ำใจในขั้นตอนนี้ที่ได้ยินว่าพนงบอกว่าคืนนี้ลูกที่มี ขนมกินแล้ว และมันเป็นคนละเรื่องกับการเก็บของมีค่าได้แล้วนำส่งเจ้าของเองหรือนำส่งเจ้ าหน้าที่ตำรวจซึ่งควรได้รับสินน้ำใจตอบแทน
                 อย่าหลงประเด็นกับการบิดเบือนข้อเท็จจริงของสื่อ ถ้าคุณลืมกระเป๋าไว้ที่สนามบิน มีเจ้าหน้าที่สนามบินซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบพบและนำไปเก็บไว้ที่ Lost & Found คุณตามไปเอาของที่ Lost & Found ด้วยตนเอง คุณจำเป็นหรือไม่ที่ต้องเปิดกระเป๋าให้ Lost & Found ดูเพื่อให้สินน้ำใจที่เหมาะสมกับมูลค่าของในกระเป๋า และสุดท้ายเจ้าหน้าที่สนามบินหรือ Lost & Found มีสิทธิถือวิสาสะเปิดดูของในกระเป๋าคุณหรือไม่ ถ้าเหตุผลเพื่อความปลอดภัยควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหรือควรเปิดค้นดูด้วยตนเอง
             ผมเอาสำเนาประชาชนยื่นให้เพื่อรับของคืน พร้อมลงบันทึกว่าของในกระเป๋ามีอะไรบ้างซึ่งต้องระบุจำนวนเงิน พนักงาน ขสมก. จึงรู้จำนวนเงินจากตอนนี้ เห็นว่าเป็นเงินจำนวนมาก เลยอยากให้ถ่ายภาพและสัมภาษณ์เป็นเหตุการณ์ไว้เป็นการโปรโมทองค์กร ผมไม่ค่อยสะดวกเพราะตอนนี้เริ่มมีคนรู้ว่าเงินอยู่กับตัวเยอะ แต่เห็นว่าไหนๆก็ได้ของคืนครบ จึงไม่ได้ขัดข้องแต่ขอว่าไม่ประสงค์ให้รูปภาพหรือข้อมูลส่วนตัวปรากฏในข่าวหรือสื่อที่จะใช้โปรโมท ยังไม่พอ จนท.ขสมก. ขอร้องให้ช่วยเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน. ไว้ด้วย ผมแจ้งว่าไม่สะดวก แต่ จนท.ขอร้องให้ไปให้ได้ ก็เลยยอมไป
           ที่สน. ตำรวจเห็นเงินเยอะเลยสอบถามว่าเป็นใคร อาชีพอะไร ทำไมขนเงินเยอะ กำลังเอาเงินไปทำอะไร เลยต้องบอกข้อมูลส่วนตัวไป มีคนถ่ายรูปที่ สน. ได้แจ้งว่าไม่ประสงค์จะให้มีรูปหรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆปรากฏในข่าวต่อหน้าตำรวจอีกครั้ง บันทึกประจำวันก็ระบุชัดว่า พนง.เก็บเงินเอากระเป๋าไปที่อู่โดยไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร และเราเป็นคนไปเอาของคืนที่อู่ด้วยตนเอง พอออกจาก สน. ก็แยกย้ายกันไป
          แล้วข่าวก็ออกมาตามพาดหัว รูปภาพ และข้อมูลส่วนตัวต่างๆดังปรากฏ ด้วยจรรยาบรรณอันเปี่ยมล้นของสื่อไทย

            จริงๆมีการติดต่อXXXออนไลนสื่อเจ้าแรกหลังจากนั้นด้วย ผมโทรขอร้องให้ช่วยลบข้อมูลระบุตัวตนส่วนตัวออก ทางโน้นบอกลบไม่ได้ ขอไปขอมาว่าข้อมูลที่คุณลงทำให้ผมลำบาก และผมแจ้งก่อนแล้วว่าไม่ยินยอมให้เปิดเผย ทางนู้นบอกงั้นขอข้อมูลเพิ่มไปลงพาดหัวข่าวใหม่ต่อแล้วจะแก้ให้ ผมไม่ตกลง เลยต่อรองว่าขอลงเป็นข้อความที่ผมกำหนดสั้นๆแต่พาดเรื่องต้องเป็นเรื่องความดีของจนท. ทางโน้นบอกตกลง
              สุดท้ายคือเอาข้อความที่ผมส่งให้ไปแต่งเพิ่มเติมเอง แล้วลงพาดหัวเฉพาะเรื่องผม และไม่แก้ข้อความเดิมตามที่ตกลง โทรไปอีกทีบอกลงข่าวให้เป็นตามความต้องการของผมแล้วไง จะเอาไรอีก ไม่ได้สัญญาว่าจะแก้ข้อความเก่าให้

Cr.Thai Clinic / เพจ แหม่มโพธิ์ดำ
                                        ทีมข่าววิหคนิวส์ รายงาน