นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องจากพรรคการเมืองขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ปลดล็อกพรรคการเมือง ว่า พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)
ตรงประเด็น – ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบันกำหนดกิจกรรมต่างๆให้พรรคการเมืองทำมากมายไม่ว่าจะเป็นการสำรวจจำนวนสมาชิกพรรค การจ่ายค่าบำรุงพรรค รวมทั้งระบบไพรมารีโหวตที่เป็นเรื่องใหม่ พรรคการเมืองจำเป็นต้องมีเวลาศึกษาข้อมูล ดังนั้นระยะเวลาที่จะต้องมีการเลือกตั้งตามที่นายกประกาศไว้ เมื่อพระราชพิธีสำคัญผ่านไปแล้ว คสช.และรัฐบาลควรปลดล็อกเพื่อให้โอกาสพรรคเปิดประชุมได้ แม้ว่าจะปลดล็อกไม่หมดทุกอย่าง แต่ก็ควรปลดล็อกในสิ่งที่พรรคต้องทำโดยเฉพาะสิ่งที่พรรคต้องจัดประชุมใหญ่ เป็นต้น
“ทุกขั้นตอนของสิ่งที่พรรคการเมืองต้องทำนั้นมีความสำคัญเพราะมีการกำหนดกรอบระยะเวลาไว้ ถ้าทำไม่ได้ตามที่กฎหมายกำหนดพรรคการเมืองอาจถูกยุบพรรค สิ่งนี้ก็จะทำให้เกิดความปั่นป่วนได้ เมื่อมีเจตนาจะให้มีการเลือกตั้งแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องให้โอกาสพรรคการเมืองได้ทำงานการเมืองอย่างแท้จริง ถ้าเขาไม่ได้ทำตามกฎหมาย เขาก็อาจจะหมดอนาคตทางการเมืองไปในทันที”
นางสดศรี กล่าวถึงกรณีที่ยังไม่มีผู้มาสมัครกกต.ว่า หากมองว่าท่านใดที่คุณสมบัติที่เหมาะสม เป็นคนดี มีความสามารถ ก็ควรจะเชียร์ให้มาสมัคร เพราะการที่หลายท่านไม่มาสมัครก็คงมองว่าการเป็นกกต. มีความเสี่ยง ยิ่งการจะต้องมารับผิดชอบเลือกตั้งครั้งหน้าที่มีความสำคัญมากด้วย ดังนั้น ตนจึงอยากให้กกต.ชุดปัจจุบันควรให้กำลังใจกับผู้ที่จะมาเป็นกกต.ชุดใหม่ อีกทั้งขณะนี้เหลือเวลาการเปิดรับสมัครอีกไม่มาก หากไม่มีคนมาสมัครหรือมีจำนวนน้อยก็ต้องขยายเวลา กกต. ชุดปัจจุบันควรให้กำลังใจกับผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนท่านว่าไม่มีอะไรน่ากลัว ควรให้กำลังใจกับกกต. รุ่นน้องว่ามาเป็นกกต. แล้วดีอย่างไร หากการเลือกตั้งครั้งหน้าประสบความสำเร็จก็จะเป็นประวัติดีงามของผู้ที่จะมาเป็นกกต. ชุดใหม่
“การมาเป็นกกต.ไม่ได้น่ากลัวหรือทำให้อนาคตของท่านหมดไป แต่เป็นการมาทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ขอเป็นกำลังใจและอยากให้ทุกคนที่เหมาะสม มีความสามารถ เป็นดี เข้ามาสมัครกกต.เยอะๆ ส่วนตัวเชื่อว่าคนในประเทศมีจำนวนมากที่เหมาะสม เพียงแต่ไม่กล้าเข้ามาเพราะหวาดกลัว
สำนักข่าววิหตนิวส์
สำนักข่าววิหคนิวส์