22 ม.ค.61 Naewna ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ประกาศวาระการพัฒนากรุงเทพมหานคร ประจำการ พ.ศ.2561 ภายใต้นโยบาย Now “ทำจริง เห็นผลจริง” ซึ่งเป็นการสรุปผลการทำงานที่ผ่านมาและก้าวสู่การผลักดันการพัฒนาในระยะต่อจากนี้ บรรยากาศภายในงานมีการจัดบอร์ดนิทรรศการการทำงาน 1 ปีที่ผ่านมา และกรอบระยะเวลาที่จะทำต่อไป 100 วัน 200 วัน 300 วัน และ 1 ปี โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครจากสำนัก และผู้อำนวยการเขตทั้ง50 เขต ร่วมงาน ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ผู้ร่วมงานจะได้รับแผ่นพับคู่มือการทำงาน มีคิวอาร์โค้ดสามารถแสกนดูนิทรรศการมีชิวิตเล่าเรื่องราวผลงาน 1 ปีที่ผ่านมาและนโยบายที่จะทำต่อไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวถึงผลงานที่ได้ทำ 1 ปี ที่ผ่านมาได้ทำตามภารกิจพิเศษดูแลพื้นที่ท้องสนามหลวง และนโยบาย NOW “ผลักดันทันใจ แก้ไขทันที” งานบริการประชาชนฉับไวขึ้น เพิ่มศักยภาพบุคลากรกทม. พัฒนาคุณภาพชีวิต และเร่งรัดปัญหาค้างคาที่ล่าใช้มานาน ส่วนที่จะทำต่อจากนี้ไป พร้อมเดินหน้านโยบาย NOW ต่อเนื่อง “ทำจริง เห็นผลจริง” กำหนดกรอบระยะเวลาขัดเจน 100 วัน 200 วัน 300 วัน และ 1 ปี ต้องเห็นผลทำได้จริง โดยนำยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี วิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 รวมถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ไม่หยุดนิ่ง มากำหนดเป็นวาระการพัฒนากรุงเทพมหานคร พ.ศ.2561 ให้ทุกโครงการตามยุทธศาสตร์การพัฒนากรุงเทพฯ สะอาด สะดวก ปลอดภัย มีคุณภาพชีวิตดี และวิถีพอเพียง สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมรับเสียงสะท้อนจากประชาชนถึงจุดอ่อนและข้อบกพร่องต่างๆ เร่งปรับปรุงแก้ไข เพื่อประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด และทำกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นต่อไป
“ผมมาเป็นผู้ว่าฯ ไม่ได้สักแต่เป็นไปวันๆ ต้องทำไม่ให้คนมาด่าได้ ส่วนตัวไม่ได้ต้องการอะไรเป็นมาหมดแล้ว ที่ทำอยู่ต้องการตอบแทนคุณแผ่นดิน ผมไม่รู้จะอยู่ถึงวันไหน จะ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1ปี อยู่ถึงวันไหนก็จะทถึงวันนั้นทำให้ดีที่สุด จากไปแล้วให้คนกรุงเทพฯไม่ด่า ไม่ต้องชมแต่ให้คิดถึง ถามถึงผลงานที่ทำมายังไม่พอใจ ถ้าสอบผมให้ผ่านแค่ครึ่ง เต็ม 100 ให้ 50 บางสิ่งยังทำไม่สำเร็จ เปิดช่องทางร้องทุกข์ให้ประชาชนแจ้งได้ที่ line@อัศวินคลายทุกข์ พยายามตอบสนองความต้องการของประชาชน” ผู้ว่าอัศวินกล่าว
ต่อประเด็นการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พล.ต.อ.อัศวิน ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธหรือตอบรับ โดยกล่าวว่า สื่ออาจเห็นว่าอัศวินเหมาะสม ลงพื้นที่ก็มีเสียงตอบรับจากประชาชน แต่อีก 3-4 เดือนข้างหน้าอัศวินอาจทำไม่ดี ให้เวลาเป็นตัวชี้ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ใกล้ๆ ค่อยมาว่ากัน ไม่ได้อยากเป็นผู้ว่าฯ กทม.แต่อยากช่วยคนกรุงเทพฯ ถามว่า มีพรรคการเมืองหรือทหารมาทาบทามหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน ตอบว่า เป็นผู้ใหญ่คนกรุงเทพฯ และจากการให้สัมภาษณ์สื่อก่อนปีใหม่ที่ยืนยันไม่มีการลงสมัครเลือกตั้ง วันนี้มีท่าทีเปลี่ยนไป มีแนวโน้มจะลงสมัคร แต่อาจลงแบบวันแมนโชว์
ทั้งนี้ สำหรับโครงการตามกรอบระยะเวลา ที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 100 วัน อาทิ การตั้งศูนย์ประสานงานโครงการจิตอาสาพระราชทานฯ กทม. และ 50 สำนักงานเขต เพื่อรักษาสภาพความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงามของคูคลองให้ยั่งยืน เพื่อเป็นการน้อมนำพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มาเป็นแนวทางในการร่วมกันพัฒนาสภาพแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น ในส่วนของงานบริการประชาชน ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกทม.นั้น จะเดินหน้าทุกโครงการให้เห็นผลจริง ประชาชนได้รับประโยชน์และเกิดความพึงพอใจ อาทิ โครงการนัดหมอล่วงหน้ารักษาเร็วขึ้นนัดหมายผ่านศูนย์ BFC โรงพยาบาล ลดเวลาการรอคอยก่อนพบแพทย์ เดินหน้าโครงการทิ้งเป็นที่…เก็บเป็นเวลา ทั้งบนบกและริมน้ำครบทุกพื้นที่ 855 จุด ลดปัญหาขยะตกค้าง เปิดศูนย์สร้างสุขทุกวัย 9 ศูนย์ สร้างกิจกรรมหลากหลายดูแลคนทุกวัย โครงการ กทม.เคลื่อนที่สู่ชุมชน นำบริการด้านต่างๆ ลงสู่ชุมชน ทั้งด้านการแพทย์ ทะเบียนราษฎร สัตว์เลี้ยง สิ่งแวดล้อม พร้อมฝึกอาชีพ นอกจากนี้จะได้เริ่มโครงการ Water Bank ธนาคารน้ำใต้ดิน 5 จุด และแก้มลิงเก็บน้ำตามศาสตร์พระราชาเพื่อพักน้ำยามฝนตกบริเวณจุดที่มีน้ำท่วมขังบ่อยครั้ง การสร้างถนนสายอัตลักษณ์ ด้วยพันธุ์ไม้บนถนนสายหลัก 9 สาย โครงการกทม.เมืองสว่าง ไฟติดทุกดวงในสวนสาธารณะ สะพาน ถนน ตรอก และซอย รวมกว่า 6,065 จุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เป็นต้น
ในระยะ 200 วัน จะพัฒนาการศึกษาโรงเรียนสังกัดกทม. และส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนในสังกัด ถือเป็นภารกิจสำคัญยิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อสร้างมาตรฐานการเรียนรู้ และผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพสู่สังคม ซึ่งในปีการศึกษา 2561 นี้ มีแผนดำเนินการพร้อมมอบโอกาสทางการศึกษา ต่อยอดการเรียนรู้ และสานฝันสู่อาชีพในอนาคต อาทิ ให้ทุนนักเรียน 100 คน เรียนภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนในต่างแดน เพิ่มห้องเรียนไทย-อังกฤษ จาก 46 เป็น 52 โรงเรียน ไทย-จีน 14 โรงเรียน เดินหน้าโครงการเด็กหลังห้อง ดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดและสร้างแรงบันดาลใจการเรียนรู้ สร้างครูหัวใจ กทม. จัดสรรทุนเรียนครูปีละ 100 ทุนเป็นเวลา 5 ปี แก้ปัญหาขาดแคนครูในสังกัด จัดสรรโควต้านักเรียนแพทย์และนักเรียนพยาบาล
นอกจากนี้ โครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่จะทยอยแล้วเสร็จตามกำหนด เช่น Pipe Jacking หรือท่อลอดช่วยเพิ่มการระบายน้ำจะแล้วเสร็จใน 2 เส้นทางจากทั้งหมด 10 เส้นทาง การปรับปรุงภูมิทัศน์ย่านปากคลองตลาด เปิดสวนสาธารณะฝั่งธนบุรีแห่งใหม่ 2 สวน ได้แก่ สวนเพชรเกษม 69 และสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 7 รอบพระชนมพรรษา เขตบางบอน และการเพิ่มช่องทางชำระภาษีและค่าธรรมเนียมผ่านโครงการ QR Payment กับ 9 ธนาคาร
ใน 300 วัน กรุงเทพฯ เปลี่ยนแปลง พร้อมบริการทันใจด้วยระบบออนไลน์ เช่น ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเปิดบริการครบ 50 เขต ปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนอีก 2 สาย (ถนนเชียงใหม่ตลอดสาย และถนนสุขุมวิท 65 ถึงสถานีรถไฟฟ้าบางจาก) แล้วเสร็จ ถนนอัตลักษณ์ด้วยพันธุ์ไม้สวยงามครบทั้ง 9 เส้นทาง พื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นด้วยสวนสาธารณะแห่งใหม่ย่านกาญจนภิเษก – ตัดพรานนก – พุทธมณฑลสาย 4 และการพัฒนาระบบนัดหมายออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อรับบริการด้านงานทะเบียนและการขออนุญาตต่างๆ เป็นต้น
และใน 1 ปี ผลิตคน ผลิตงาน ทุกโครงการจับต้องได้ เห็นผลจริง โครงการที่เริ่มดำเนินการนับตั้งแต่ระยะ 100 วันแรก จะเห็นผลเป็นที่ประจักษ์เพื่อแก้ไขปัญหาเมือง และประชาชนได้รับการดูแลและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น สถานีดับเพลิงย่อย 5 สถานี ดอนเมือง พหลโยธิน ร่มเกล้า ลาดพร้าว ประเวศ แล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้ภายใน 1 ปี เพิ่มจำนวนโรงพยาบาล 2 แห่ง ได้แก่ ก่อสร้างโรงพยาบาลคลองสามวา และเปิดแผนกผู้ป่วยนอก (OPD) ชั่วคราว โรงพยาบาลบางนา Water Bank ธนาคารน้ำใต้ดิน แล้วเสร็จทั้ง 5 จุด ได้แก่ บริเวณ สน.บางเขน สวนสาธารณะใต้สะพานข้ามแยก ถนนรัชดาภิเษก ตัดถนนวิภาวดีรังสิต ใต้สะพานข้ามแยกถนนกรุงเทพกรีฑา ตัดถนนศรีนครินทร์ ปากซอยสุทธิพร 2 ถนนอโศกดินแดง และหมู่บ้านเศรษฐกิจ และแก้มลิงเก็บน้ำตามศาสตร์พระราชา แล้วเสร็จ 4 จุด Pipe Jacking แล้วเสร็จอีก 6 เส้นทาง คลองโอ่งอ่างได้รับการปรับปรุง เพื่อกรุงเทพฯ ปลอดภัย สวยงาม และส่งเสริมการท่องเที่ยว
สำนักข่าววิหคนิวส์