21 สิงหาคม 2564 | โดย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เมื่อวันที่ 19 ส.ค. OnlyFans ผู้ให้บริการคอนเทนท์ภาพและวิดีโอแบบสมัครสมาชิก ประกาศปรับกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญ โดยจะไม่อนุญาตให้เหล่าครีเอเตอร์สร้าง “เนื้อหาทางเพศโจ่งแจ้ง” (sexually explicit) อีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม OnlyFans ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน เผยว่า จะยังอนุญาตให้ครีเอเตอร์โพสต์เนื้อหา “นู้ด” หรือภาพเปลือยเชิงศิลปะ ตราบใดที่ไม่ขัด “นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้” ของแพลตฟอร์ม
แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะใช้เกณฑ์ใดพิจารณาว่าโพสต์ไหนมีเนื้อหาทางเพศโจ่งแจ้ง หรือจะมีผลในทางปฏิบัติอย่างไร ซึ่ง OnlyFans บอกเพียงว่าจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง
เงื่อนไขการบริการของ OnlyFans ระบุข้อห้ามไว้หลายข้อ รวมไปถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปี และเนื้อหาที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ หรือมีความรุนแรงด้วย
“เรายังคงทุ่มเทเพื่อชุมชนของผู้ใช้งาน 130 ล้านคนและครีเอเตอร์กว่า 2 ล้านคนที่สร้างรายได้กว่า 5,000 ล้านดอลลาร์บนแพลตฟอร์มของเราต่อไป” OnlyFans แถลง
มุ่งสู่ถนนสายใหม่
OnlyFans ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุดฮิตมานานสำหรับเหล่าดาราหนังผู้ใหญ่ (AV) ที่ต้องการสร้างรายได้จากการแสดง ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เนื่องจากบรรดาคนดังที่ขายความเซ็กซี่และผู้ค้าบริการทางเพศ (sex worker) หันมาใช้แพลตฟอร์มนี้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในออนไลน์กันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน OnlyFans เตรียมช่องทางทำมาหากินใหม่เอาไว้แล้ว เพื่อขยายกลุ่มผู้ชมนอกเหนือจากกลุ่มที่นิยมคอนเทนท์ผู้ใหญ่
เมื่อเร็ว ๆ นี้ OnlyFans ได้เปิดตัวเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบริการสตรีมมิงแบบไม่เสียเงิน ชื่อว่า “OFTV” ซึ่งจะไม่เน้นนำเสนอคอนเทนท์ 18+ เหมือนกับแพลตฟอร์มเดิม แต่จะเสนอคอนเทนท์ที่ดูได้อย่างปลอดภัยในที่ทำงาน เช่น คลิปทำอาหาร เล่นดนตรี เล่นโยคะ หรือออกกำลังฟิตกล้าม
แม้ผู้สร้างคอนเทนท์เหล่านี้ยังมีอยู่บ้างใน OnlyFans แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย และไม่ใช่จุดขายของแพลตฟอร์มที่ให้สมาชิกจ่ายเงินเพื่อดูเนื้อหา “ลับเฉพาะ” หรือ 18+ ซึ่งเป็นหมวดที่ได้รับความนิยมที่สุด
การขยายแนวคอนเทนท์ของ OnlyFans มายัง OFTV ซึ่งมีครีเอเตอร์คุ้นตาจาก OnlyFans กว่า 100 คน นอกจากจะช่วยเพิ่มฐานผู้ชมแล้ว ยังเป็นการแข่งขันกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ เช่น “Facebook” ที่เปิดให้เหล่าครีเอเตอร์สร้างรายได้ออนไลน์บนแพลตฟอร์มตัวเองเช่นกัน
“พันธมิตร-ทุน” ตีตัวห่าง 18+
ถึงแม้เนื้อหาผู้ใหญ่ หรือ 18+ เป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้และผู้ใช้จำนวนมากมาตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่สตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษให้เหตุผลถึงการตัดสินใจแบนคอนเทนท์โป๊เปลือยว่า “ทำตามคำขอจากบรรดาพาร์ทเนอร์” ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านธนาคารและการชำระเงิน
“เพื่อรับประกันความยั่งยืนในระยะยาวของแพลตฟอร์ม และให้สามารถสร้างชุมชนสำหรับครีเอเตอร์และแฟน ๆ ต่อไปได้ เราจึงต้องปรับหลักเกณฑ์ด้านเนื้อหาของเราใหม่” แถลงการณ์ของ OnlyFans ระบุ
แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยกับเว็บไซต์วอลล์สตรีทเจอร์นัลว่า ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา OnlyFans อยู่ระหว่างการระดมทุน และนักลงทุนหลายรายต่างเลี่ยงลงทุนในธุรกิจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเชิงลบทางเพศ รวมถึงสื่อลามกด้วย
ขณะที่เว็บไซต์แอกซิออส (Axios) ระบุว่า นักลงทุนจำนวนมากตีตัวห่างจาก OnlyFans เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับ “เนื้อหาผู้ใหญ่” กองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์ ฟันด์) บางราย ถูกห้ามลงทุนในเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาทางเพศ เนื่องจากทำข้อตกลงกับนักลงทุนสถาบันของตนไว้
นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ OnlyFans เกิดขึ้นหลังจากในปีที่แล้ว “มาสเตอร์การ์ด” และ “วีซ่า” 2 ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินรายใหญ่ตัดสัมพันธ์กับเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ยอดนิยมอย่าง “Pornhub”
เว็บไซต์ AV ชื่อดังเผชิญข้อกล่าวหาว่าเป็นแหล่งแพร่คลิปที่มีเนื้อหาการมีเซ็กซ์กับผู้เยาว์ การข่มขืน และคลิปอนาจารแก้แค้นอดีตคนรัก
อย่างไรก็ตาม Pornhub ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเว็บไซต์ปล่อยให้มีเนื้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และได้ปรับกฎเข้มให้งวดขึ้นโดยห้าม “ผู้ใช้ที่ไม่ยืนยันตัวตน”อัพโหลดคลิปวิดีโอ หวังช่วยลดข้อครหานี้
โกยรายได้หมื่นล้านช่วงโควิด
จุดเริ่มต้นของ OnlyFans เกิดขึ้นจากการก่อตั้งเว็บไซต์เมื่อปี 2559 โดย “ทิม สโตคลีย์” นักธุรกิจชาวอังกฤษ ซึ่งนั่งเก้าอี้ซีอีโอบริษัทถึงปัจจุบัน สื่ออังกฤษบางรายอย่าง The Sunday Times ตั้งฉายาให้สโตคลีย์ว่า “ราชาแห่งสื่อลามกโฮมเมด”

เดิมนั้น เจ้าของ OnlyFans คือ บริษัทฟีนิกซ์ อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด (Fenix International Limited) ของสโตคลีย์ ก่อนจะขายหุ้น 75% ใน OnlyFans ให้กับเลียวนิด รัดวินสกี นักธุรกิจสื่อลามกชาวยูเครน-อเมริกัน เมื่อปี 2561 ซึ่งปัจจุบันนั่งเป็นกรรมการบริหาร
OnlyFans รายงานผลประกอบการมีรายได้สุทธิ 375 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.25 หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งเริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก
บริษัทคาดการณ์ว่า ในปี 2564 จะมีรายได้เพิ่มเป็น 1,200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และภายในปี 2565 น่าจะโกยรายได้สูงขึ้นอีกเป็น 2,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 8.3 หมื่นล้านบาท)
กว่า 50% ของรายได้ OnlyFans นับถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2564 มาจากส่วนแบ่งการสมัครรับคอนเทนท์ของผู้ใช้ ขณะที่อีกกว่า 30% มาจากการแชท และส่วนที่เหลือมาจากทิป/สตรีม และโพสต์ที่เสียค่าโฆษณาสำหรับบัญชีที่เปิดให้ชมคอนเทนท์ฟรี
ขณะที่บรรดาครีเอเตอร์ใน OnlyFans ที่มีรายได้โดยตรงจากผู้ชม ก็รับทรัพย์หลักล้านบาทต่อปี มีรายงานว่า ครีเอเตอร์กว่า 300 คนโกยรายได้อย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์ (ราว 33.3 ล้านบาท) ต่อปีและครีเอเตอร์ราว 1.6 หมื่นคนโกยรายได้อย่างน้อย 5 หมื่นดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านบาท) ต่อปี
ปัจจุบัน OnlyFans ยังคงอยู่ในช่วงการระดมทุน เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทตั้งเป้าระดมทุนให้ได้มูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์




