27 ม.ค. 61 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็น”นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
แนวหน้า-เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นต่อการทำงานตรวจสอบรัฐบาล คสช. ของ ป.ป.ช.”ว่า ทั้ง ป.ป.ช. และรัฐบาล คสช. ต้องรับฟัง และตรวจสอบตัวเองถึงเสียงสะท้อนความเชื่อมั่นต่อการทำงานของ ป.ป.ช. ที่ร้อยละ 76.32 เห็นว่า มีความไม่ปกติ ไม่โปร่งใส ร้อยละ 61.04 ระบุว่า มีการแทรกแซงการทำงานของ ป.ป.ช. จากรัฐบาล คสช. คำชี้แจงของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงท่าทีจาก ป.ป.ช. ทำให้ประชาชนกังขาและไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการตรวจสอบ
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เพราะแม้แต่กองหนุนของท่านเองยังตั้งคำถามในลักษณะเกิดวิกฤติศรัทธา ความเชื่อมั่นลดกองหนุนหดหาย ท่านต้องไปตรวจสอบมาตรฐานการทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ้าเป็นแบบลูบหน้าปะจมูก เลือกปฏิบัติ ประชาชนคงไม่อาจไว้วางใจหรือให้ความเชื่อมั่นได้ และเมื่อประชาชนสิ้นหวังต่อกระบวนการและมาตรฐานการตรวจสอบ ช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลจะประสบสภาวะยากลำบาก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลทั้งระบบ
“โดยเฉพาะท่าทีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ต่อการตรวจสอบเรื่องนี้ ประชาชนตั้งคำถามว่า ระหว่างความถูกต้อง การตรวจสอบอย่างมีมาตรฐานธรรมาภิบาลกับความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ท่านมีหลักอย่างไร ประชาชนรอด้วยใจระทึกว่า ลำดับดัชนีคอรัปชั่นหรือ CPI ที่จะเปิดเผยในเดือนกุมภาพันธ์ ประเทศไทยจะมีลำดับดีขึ้นหรือแย่ลง ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นปัจจัยหนึ่งในการประเมินดัชนีคอรัปชั่นดังกล่าว” รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์

