“บิ๊กตู่” หวั่น เกิด “สงครามกลางเมือง”
เตือน นักเรียน นักศึกษา
ชุมนุมได้ แต่ขอร้องอย่างเดียว
ไม่อยากให้มาแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์
คนไทยมี 67 ล้านคน
แต่มาชุมนุมอาจจะดูมากหรือน้อย
แต่ผมถือว่าประชาชนส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศ ไม่ได้เห็นด้วย กับการชุมนุมนี้
.
พลเอกประยุทธ์ ตอบคำถาม นักข่าว
Channel 4 ของอังกฤษ เริ่องการรับฟังเสียงของนักศึกษา บนเวทีการชุมนุมทั้ง 3 ข้อเสนอ และ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ว่า “ในเรื่องของสถาบัน พวกคุณต้องเข้าใจว่าสถาบันกับประเทศไทย มีความสัมพันธ์กันอย่างไร เพราะฉะนั้น ผมจะไม่ตอบในประเด็นนี้
“เพราะผมเองก็ไม่เคยไปก้าวล่วงต่างประเทศ ไม่เคยไปสนับสนุนการเมืองที่มาเคลื่อนไหวในประเทศไทย แล้วไปต่อต้านประเทศอื่นๆ ไม่เคยสนับสนุนแบบนั้น ผมต้องดำเนินนโยบายการต่างประเทศอย่างสมดุล”
ส่วนการรับฟังความคิดเห็น ก็รับฟังจากข้อมูลในด้านต่างๆ รวมทั้งจากสื่อโซเชียล หนังสือพิมพ์ ที่มีข้อเสนอต่างๆ ออกมาจำนวนมาก ก็เป็นวิธีการการรับฟังของตนอีกทาง และดำเนินการอย่างไรไม่ให้เกิดการลุกลามบานปลาย
“เหตุการณ์เกิดขึ้นมา 10 กว่าปีที่ผ่านมาแล้ว และคนที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านั้นก็เคยทำความเสียหายให้กับประเทศชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด
ผมเข้ามาเป็นนายกฯหรือรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้ทำอะไรที่ทำให้ประเทศชาติหยุดชะงักบ้างหรือเปล่า การทุจริตต่างๆของผมโดยตัวของผมเองก็ไม่มี”
“แม้แต่นักเรียนนักศึกษา ผมก็รับรู้ทุกข้อเรียกร้องของพวกเขา ขอร้องอย่างเดียวไม่อยากให้มาแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเคารพนับถือ
อย่าลืมว่าคนไทยมี 67 ล้านคน การที่มาชุมนุมอาจจะดูมากหรือน้อย แต่ผมถือว่าประชาชนส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศไม่ได้เห็นด้วย กับการชุมนุมนี้ ก็ต้องเปรียบเทียบให้ดู”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผมไม่ได้ขัดแย้งในเรื่องของการชุมนุม หากเป็นการชุมนุมเรียกร้องในสิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือสิ่งที่ดำเนินการให้ได้ตนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม
อะไรที่มันไม่ได้เราก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ด้วย อย่าเรียกว่านักศึกษาทั้งหมดหรือนักเรียนทั้งหมด มันไม่ใช่ มันเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนในสังคม แต่ตนก็ฟังพวกเขา
“ผมถามว่าแล้วประเทศไทยจะอยู่อย่างไร ก็ขอให้เคารพความเป็นอัตลักษณ์ของประเทศไทยด้วย เรามีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่คู่กับแผ่นดินเรามาหลาย 100 ปีไม่ใช่เพิ่งมีมาเพียง 2-3 วัน เรามีมาโดยตลอดหลายรัชกาล เรามีความเป็นมา 700 กว่าปีแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า สมมุติว่าประเทศอังกฤษมีการเรียกร้องว่าเมื่อจบการศึกษามาแล้วจะต้องมีการใจงานเดือนละ 50,000 ดอลลาร์จะให้ได้หรือไม่ ก็คงไม่ได้ หรือข้อเรียกร้องไม่ต้องไหว้ครู ประเทศไทยมีแบบและธรรมเนียมปฎิบัติมาอยู่
วันนี้พยายามสร้างว่าครูเป็นลูกจ้างของเด็ก เป็นลูกจ้างของพ่อแม่ แต่วันนี้ลูกกับพ่อคิดเห็นไม่ตรงกัน ลูกประกาศตัดพ่อ แล้วเราจะอยู่กันอย่างนี้หรือ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศล่มสลาย จากนั้นก็จะเกิดจลาจล และสงครามกลางเมืองต่อไป ตนไม่อยากให้ไปถึงจุดดังกล่าว สื่อมวลชนต้องช่วยผมตรงนี้ด้วย
