วันศุกร์ที่ผ่านมา (10 พ.ย.) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเรียกร้องให้มีความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันมากขึ้นระหว่างกลุ่มความร่วมมือเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) และกลุ่มประชาคมอาเซียน
“กลุ่มเอเปคคือแพลตฟอร์มที่ทรงอิทธิพลสูงสุดด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนประชาคมอาเซียนก็เป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวในระดับภูมิภาคซึ่งมีศักยภาพสูงสุด กลไกทั้งสองนี้จะมีอนาคตอันสดใสภายใต้การร่วมมือกัน” สีจิ้นผิงกล่าวระหว่างการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการกับผู้นำทั้ง 2 กลุ่ม โดยชี้ให้เห็นว่าทั้ง 2 กลุ่มนี้มีหลักการและแนวคิดร่วมกันอย่างไรบ้าง
สีจิ้นผิงขอให้ทั้ง 2 กลุ่มทำงานร่วมกันเพื่อการรวมตัวทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
เขากล่าวว่าทั้ง 2 ฝ่ายควรพยายามร่วมกันเพื่อสร้างเศรษฐกิจเปิดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมทั้งวางกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคโดยมีการปรึกษาหารือที่เท่าเทียมกัน มีส่วนร่วมกันถ้วนหน้า และได้ผลประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย เพื่อสร้างเขตการค้าเสรีแห่งแอเชีย-แปซิฟิก
สีจิ้นผิงกล่าวว่า ประเทศจีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับประชาคมอาเซียน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่รวดเร็วขึ้นสำหรับการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership – RCEP) พร้อมเน้นย้ำจุดยืนของจีนที่ว่า กลุ่มประชาคมอาเซียนควรมีบทบาทหลักในการเจรจา
(หมายเหตุ RCEP คือความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างประชาคมอาเซียนและ 6 ชาติคู่เจรจา (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์)
“กลุ่มเอเปคและอาเซียนควรทำงานร่วมกันประหนึ่งเครื่องยนต์ 2 เครื่อง ออกมาตรการที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในด้านโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายและกฎข้อบังคับ และการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างเครือข่ายแห่งการเชื่อมโยงหลายมิติทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก” สีจิ้นผิงกล่าว
นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังเรียกร้องให้มีการพัฒนาอย่างครอบคลุมและยั่งยืน ขอให้สมาชิกกลุ่มเอเปคและอาเซียนมียุทธศาสตร์การพัฒนาที่สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบสหประชาชาติปี 2030 (United Nations’ 2030 Agenda for Sustainable Development)
สีจิ้นผิงกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของประชาคมอาเซียน ประเทศจีนสนับสนุนอย่างยิ่งต่อการสร้างประชาคมอาเซียนและสนับสนุนให้กลุ่มอาเซียนมีบทบาทหลักในความร่วมมือระดับภูมิภาค
“จีนจะเดินหน้าด้วยการเป็นแนวร่วมในการพัฒนาเชิงลึกร่วมกันกับกลุ่มอาเซียน รวมทั้งยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อสร้างสังคมที่มีอนาคตร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างจีนและประชาคมอาเซียน” สีจิ้นผิงกล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์