ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #สังคมว่าไง!!จับไอ้กร่างเลือดร้อนคอตกรับสารภาพทำร้าย’น้องเกด’ปกป้องพ่อคนขับแท๊กซี่

#สังคมว่าไง!!จับไอ้กร่างเลือดร้อนคอตกรับสารภาพทำร้าย’น้องเกด’ปกป้องพ่อคนขับแท๊กซี่

20 December 2017
607   0

สืบเนื่องจากกระแสดราม่าซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชียล สำหรับกรณีคลิปวิดีโอของแก๊งชายหนุ่มต่อยผู้หญิง แถมก่อนต่อยประกาศ “ถึงเป็นผู้หญิงกูก็ตบกับมึงได้นะ” เนื่องจากฝ่ายหญิงเข้าไปห้ามและขวางไม่ให้กลุ่มชายหนุ่มเข้ามาทำร้ายพ่อของตนซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ หลังมีเรื่องทะเลาะกันด้วยเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถแท็กซี่ อีกทั้งกลุ่มชายดังกล่าวยังไปรุมทุบรถแท็กซี่ ขณะเด็กในรถร้องไห้เสียงดังด้วยความหวาดกลัว โดยไม่เกรงกลัวตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์แม้แต่น้อย จนทำให้เมื่อคนในสังคมได้เห็นภาพเหตุการณ์ต่างรุมด่าถึงพฤติกรรมของชายกลุ่มนี้ ทั้งยังมีเพจดังๆ และกลุ่มคนดังอีกมากมายที่ลั่นคำว่าจะเอาเรื่องชายกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตำรวจสามารถคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่ และ ทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยหน้าผู้หญิง ซึ่งเป็นลูกสาวของคนขับรถแท็กซี่ เพราะไม่พอใจแทนเพื่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์มาชนท้ายรถแท็กซี่ ย่านพุทธมณฑลสาย 1 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนกลายเป็นกระแสร้อนในโลกโซเชียล จนในเวลาต่อมามีผู้ให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวมากมา

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ก่อเหตุ มาสอบสวน ที่ สน.บางเสาธง เบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้ให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลในคลิปที่ทำร้ายผู้เสียหายจริง ส่วนรายละเอียดต่างๆ อยู่ระหว่างการซักถามพูดคุย และจะได้มีการแถลงชี้แจง ต่อไป

ขณะที่ ทางด้าน นายกฤตภาส รอดหลัก วัย 43 ปี คนขับแท็กซี่ที่ถูกชนท้าย กล่าวว่า ตนขับรถแท็กซี่กำลังจะไปรับลูกสาว 2 คน ที่ไปดูคอนเสิร์ต แต่พอขับมาถึงฝั่งตรงข้ามของร้านอาหาร ขับในเลนซ้ายกำลังจะไปยูเทิร์นใต้สะพาน จู่ๆก็ได้ยินเสียงดังโครมดังมาจากท้ายรถจึงลงมาดู เห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ขับมาชนท้าย มีผู้ชายสองคนนอนบาดเจ็บอยู่ จังหวะนั้นก็มีพลเมืองดีรีบโทรแจ้งกู้ภัยให้ ส่วนตนก็ดูอาการคนเจ็บก่อนจะเรียกประกัน ส่วนลูกสาว 2 คน ที่รออยู่หน้าร้านอาหารเห็นเหตุการณ์จึงรีบวิ่งมาหาตน ไม่กี่นาทีต่อมาผู้ชายที่เป็นคนซ้อนรู้สึกตัวแล้วโทรศัพท์หาเพื่อน บอกว่าตัวเองรถชนให้มาช่วยดูหน่อย เมื่อกลุ่มเพื่อนของคนเจ็บมาถึงก็เข้ามาพูดจาหาเรื่องตน ตนยอมรับว่าตอนเกิดเหตุโกรธมาก แต่พยายามสงบสติอารมณ์ไม่ไปตอบโต้ ตอนนี้ก็ยังเสียใจที่ลูกสาวต้องมาเจ็บตัว แต่ก็ขอให้เรื่องดำเนินไปตามกฎหมาย ไม่คิดจะไปแก้แค้นเอาคืนอะไรกับใคร

ด้านนางสาวกชกร รอดหลัก วัย 18 ปี ลูกสาวของนายกฤตภาส เล่าว่า ที่ตนเอาตัวไปบังพ่อเอาไว้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายทำร้ายพ่อ และกันไม่ให้พ่อสู้กับอีกฝ่ายด้วย เพราะถ้าพ่อสู้ จะต้องถูกรุมอย่างแน่นอน ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังทำร้าย ทั้งที่ตนกับพี่สาว ซึ่งก็เป็นผู้หญิงทั้งคู่ พยายามพูดจาขอร้องตลอดเวลา ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้