วันนี้ทางทีมงานวิหคนิวส์ได้ติดตามข่าวสารมาฝากลูกเพจที่น่ารักทุกคนนะคับ ถ้าพร้อมแล้ว ตามทีมงานวิหคนิวส์ไปดูกันเลยคับ
ทีมงานวิหคนิวส์ได้รับรายงานว่า พระประสิทธิ์ ชาคโล หรือนายประสิทธิ์ เทศทะวงศ์ หรือหม่อมเหยิน วัย 74 ปี อดีตตลกชื่อดัง เป็นนักแสดง และดาราตลก มีฟันเหยินเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น ซึ่งในวัยเด็ก หม่อมเหยินเป็นเด็กวัดจบการศึกษาแค่ระดับชั้น ป.4 รู้ถึงความลำบาก จึงทะเยอทะยานอยากเป็นศิลปิน จึงเริ่มต้นด้วยการเล่นลิเก และเป็นตลกในวงดนตรีลูกทุ่ง จนกระทั่งเพื่อนสนิทจุมจิ๋ม เข็มเล็กพาไปรู้จัก ดี๋ ดอกมะดันและได้อยู่ในคณะของดี๋
ต่อมาดี๋มีงานละครเยอะจึงยกคณะตลกให้หม่อมเหยินดูแล ชีวิตของหม่อมเหยินก็สุขสบายมากขึ้น กระทั่งเจอกับพิษเศรษฐกิจ เขาจึงผันไปทำธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งเป็นชนวนทำให้เกิดหนี้นับล้าน ชีวิตที่ไม่เคยย่อท้อจึงดิ้นรนต่อสู้หาเงินมาใช้หนี้จนหมด เปิดใจในงานบุญยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญวัดแสงมณีเจริญธรรม
พระประสิทธิ์ เปิดเผยว่าได้ร่วมบวชกับสมาคมตลก 40 กว่าองค์ด้วยกันเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 ที่วัดบางพลีใหญ่ สมุทรปราการ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีกำหนดบวช 9 วัน แต่ในขณะเดียวกันนั้นท่านสึกกันหมดแล้ว อาตมาก็ยังไม่สึก จนกระทั่งญาติโยมครอบครัวและลูกๆขอร้องว่าคุณพ่ออายุมากแล้วบวชถวายพ่อหลวง ก็มาตรงกับความคิดเมื่อบวชถวายพ่อหลวงแล้วก็จะบวชไม่สึกเพื่อทดแทนบุญคุณในพระพุทธศาสนา ประกอบกับทางครอบครัวไม่มีปัญหาเหมือนว่าใจตรงกันก็เลยอธิฐานจิตก็ขอบวชตลอดชีวิตเพราะตั้งใจ ซึ่งก็เหลือน้อยแล้วอายุจะมีสิ่งใดเล่าที่จะทดแทน ก็มีสีผ้าเหลืองนี้เป็นเครื่องตอบแทนต่อพระองค์ท่าน ปัจจุบันจำพรรรษา อยู่ที่วัดธรรมปัญญา อ.บ้านนา จ.นครนายก
พระประสิทธิ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อในหลวง ร.9 ว่าความรู้สึกมีจิตสำนึกเราเป็นคนไทยที่มีต่อพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่สามารถที่จะบรรยาย แต่มีความรู้สึกว่าเราเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่เรายากจะแทนคุณท่าน แม้เราจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดทำงาน ที่พระองค์ได้ทรงงานอยู่เรื่อยๆนั้น แต่มีความรู้สึกว่าเราจะหาสิ่งใดตอบแทนต่อพระองค์ท่านได้ เมื่อสมาคมตลกเขาบวชกันก็เหมือนว่าเรามีใจพร้อม เมื่อบวชแล้วจะพฤติปฏิบัติอย่างไร เพราะที่เราบวชไม่ใช่บวชแก้บน เพราะที่เราบวชนี้เพื่อเป็นการทดแทนสุดที่จะหาสิ่งเปรียบเทียบได้
เพราะพระองค์ได้ทรงงานมาทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย บรรเทาทุกอย่างให้กับประชาราษฎร์ ยามใดที่พวกเราทุกข์ยากพระองค์ท่านก็จะเสด็จไปถึง พระองค์จะแก้ไขปัญหาแต่ละจุดนั้นที่ชาวประชาราษฎร์ไม่เดือดร้อน เขื่อนสุดท้ายที่พระองค์ได้ทรงดำริสร้างเป็นเขื่อนที่อยู่ใน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี อาตมาจำชื่อเขื่อนไม่ได้ ในอดีตที่ผ่านๆมานจะท่วมจังหวัดประจีนบุรีตลอด หลังจากที่พระองค์ได้ทรงดำริสร้างเขื่อนจนแล้วเสร็จ ชาวปราจีนบุรีก็ไม่เกิดปัญหาทุกคนก็อยู่สุขสบาย สิ่งนี้ที่เราได้เห็นอยู่ซึ่งก็ไม่สามารถหาสิ่งใดมาตอบแทน สีผ้าเหลืองเป็นสิ่งตอบแทนตลอดชีวิตของอาตมา