ข่าวประจำวัน » #”สมศักดิ์ ปริศ” ชี้ “บิ๊กตู่” ไม่ได้ปลดล็อกการเมือง แค่ขยายเวลาให้พรรคทำกิจกรรม

#”สมศักดิ์ ปริศ” ชี้ “บิ๊กตู่” ไม่ได้ปลดล็อกการเมือง แค่ขยายเวลาให้พรรคทำกิจกรรม

23 December 2017
417   0

แกนนำชาติไทยพัฒนา ชี้นายกฯ ใช้ ม.44 ขยายเวลาให้พรรคทำกิจกรรม ไม่ได้ปลดล็อกการเมือง ยันไม่ใช่ความผิดของนักการเมือง กกต. กรธ. ขอปลดล็อกแท้จริง ให้ชาติเข้าสู่ประชาธิปไตยเสมอกัน ไม่ใช่ค่อยๆ คลาย แล้วบอกเรื่องได้เปรียบเสียเปรียบ

Mgronline-วันนี้ (23 ธ.ค.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53 / 2560 อาศัยอำนาจตาม มาตรา 44 ขยายเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมตามกรอบเวลาในพระราชบัญญัติประกอบและธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 ว่า การขยายเวลาดังกล่าวไม่ได้ถือว่า เป็นการปลดล็อกทางการเมืองแต่อย่างใด เพราะการปลดล็อกหมายถึงการให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ในทันที แต่คำสั่งนี้เป็นเพียงการขยายเวลา

“การขยายเวลาแบบนี้ บอกเลยว่า ไม่ใช่ความผิดของพรรคการเมืองหรือไม่ใช่ความผิดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เพราะพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองนี้ได้ประกาศใช้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2560 ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีการกำหนดห้วงเวลาไว้ ดังนั้นแต่ละพรรคการเมืองจึงต้องการดำเนินตามเจตนารมย์ของรัฐบาลให้เป็นไปตามโรดแมปของ คสช. แต่ปรากฏว่า ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ จนท้ายที่สุดเวลาทอดมาจนครบกำหนด ซึ่งถ้าพรรคการเมืองไม่ทำตามนั้นก็จะถูกตัดสิทธิในการส่งสมาชิกลงสนามเลือกตั้ง ต้องย้อนถามว่า เป็นความผิดของพวกเราที่ละเลยไม่ทำตามกฏหมายหรือไม่ ก็ตอบได้ว่า ไม่ใช่เลย” แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนต้องการเห็นการปลดล็อกอย่างแท้จริง อยากให้ประเทศไทยเข้าสู่บรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยและเสมอเหมือนกัน ไม่ใช่มาค่อยๆ คลายล็อคให้พรรคการเมืองทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ ในเวลานั้นเวลานี้ เพราะเหมือนเป็นการลักลั่นแล้วเอาเหตุผลมาบอกว่า ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ทำไมจึงไม่ย้อนกลับไปดูเมื่อครั้งที่กฎหมายเริ่มออกประกาศใช้ จะไม่มีการพูดถึงความได้เปรียบเสียเปรียบเลย ระหว่างพรรคการเมืองเก่าหรือพรรคการเมืองใหม่

หากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองเหล่านั้น ก็จะไม่มีพรรคการเมืองใดลุกขึ้นมาโวยวายหรือต่อต้านกับเรื่องดังกล่าว วันนี้จึงต้องถือว่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องการทำผิดกฏหมายเลือกตั้งของพรรคการเมือง แล้วร้องขอให้ต้องขยายเวลา และไม่ใช่ความผิดของ กกต. ที่ไม่สามารถสนับสนุนหรือจัดให้แต่ละพรรคการเมืองดำเนินการได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การขยายเวลาดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดปัญหาต่อไพรมารี่โหวต และการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ระยะเวลาจะเหลือกระชั้นชิดมากเกินไปหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องเกี่ยวแน่ เพราะการขยายเวลาให้ดำเนินธุรกรรม แต่ในขณะที่รัฐธรรมนูญกำหนดกรอบเวลาที่จะต้องดำเนินการตามกฏหมายก่อนลงสนามเลือกตั้ง จึงต้องดูองค์ประกอบควบคู่กันไปด้วย เมื่อขยายเวลาตรงนี้แล้ว ก็ต้องไปดูกฎหมายประกอบและธรรมนูญด้วยว่า จะทำอย่างไรจึงจะให้เป็นไปตามครรลองและทำไม่ให้ได้รับผลกระทบทั้งพรรคการเมือง คสช. และรัฐบาล โดยเฉพาะหากกระทบต่อความน่าเชื่อถือก็จะเป็นเรื่องที่ใหญ่

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะส่งผลกระทบถึงโรดแมป คสช. หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ ในเมื่อ คสช. ยืนยันว่าไม่กระทบ เราก็ต้องเชื่อ เพราะถ้า คสช. พูดแล้วไม่เชื่อก็ไม่รู้จะไปเชื่อใคร ก็เพียงแต่ให้กำลังใจและรอดู เพราะอยากเห็นรัฐบาล คสช. ดำเนินทุกอย่างให้เป็นไปตามโรดแมปให้ได้

“วันนี้การที่อียูประกาศปลดล็อกให้ไทยในเรื่องสิทธิการทำมาค้าขายได้ เพราะเขาเห็นว่า กำลังจะเข้าสู่โรดแมป การคืนอำนาจคืนความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นถ้าจะเกิดความล่าช้าหรือมีเหตุใดขึ้นมาก็จะทำให้ส่งผลกระทบต่อเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศ” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่บอกว่า พรรคการเมืองไม่ได้เสียสิทธิ เพราะเขาขยายเวลาให้ แต่ประเทศเสียโอกาส ถ้าจะต้องทำให้ทุกอย่างไม่สามารถเป็นไปตามโรดแมปได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือประเทศจะเสียโอกาสถ้าจะต้องทำให้ทุกอย่างไม่สามารถเป็นไปตามโรดแมปได้ เสียหายคือประเทศ ไม่ใช่พรรคการเมือง เพราะไม่ว่า จะเลือกตั้งปี 61หรือ ปี 62 พรรคการเมืองก็รอได้แต่ประเทศจะรอไม่ได้นี่สิ

สำนักข่าววิหคนิวส์