“สมศักดิ์” ชี้ “ไพบูลย์” มีสิทธิ์ ร้องขอแก้ พรป. พรรคการเมือง แต่แนะควรตระหนักถึงเป้าหมายใหญ่เลือกตั้งตามโรดแมป ไม่ควรขยายเวลา จี้ คสช. รับผิดชอบพรรคการเมืองทำตามกม.ไม่ได้
inn-นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป ยื่นหนังสือถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อขอให้แก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ในเมื่อนายไพบูลย์ประกาศเจตนารมณ์ตั้งพรรคการเมืองก็ถือว่ามีสิทธิในการที่จะเสนอขอแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเมื่อเห็นว่าเกิดความไม่เสมอภาคระหว่างพรรคการเมืองระหว่างพรรคการเมืองเก่ากับพรรคการเมืองใหม่กรณีที่ต้องจ่ายค่าสมาชิก แต่นายไพบูลย์ควรคิดถึงผลที่จะเกิดจากการขยายเวลาออกไป และต้องตระหนักว่าทุกคนมองเป้าไปที่การเลือกตั้งในปี 2561 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำต่อสังคมโลกและสังคมไทย หากจะขยายเวลานายไพบูลย์ต้องตอบสังคมให้ได้
นายสมศักดิ์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ตอนนี้กฎหมายดัวกล่าวมีผลบังคับใช้ แต่ยังไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังไม่ปลดล็อกทางการเมือง เท่ากับว่ากฎหมายฉบับนี้ยังไม่ได้ใช้ ดังนั้นเมื่อมาเสนอแก้ไขเลย ในทางพฤตินัยจึงต้องยอมรับว่า ในเมื่อคสช.ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมืองก็ไม่สามารถดำเนินการให้เป็นไปตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองได้
ส่วนกรณีปลดล็อกพรรคการเมืองที่คสช.ยังไม่มีท่าทีจนกว่าจะหลังเทศกาลปีใหม่ นั้น วันนี้สิ่งที่พรรคการเมืองให้การสนับสนุนรัฐบาล และคสช.ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และปฏิบัติตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อรัฐบาลและคสช.ยังไม่ทำเมื่อทุกอย่างล่วงผ่านพ้นไป คนที่รับผิดชอบคือคสช.และรัฐบาล
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเดินทางมามอบนโยบายให้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า ได้มอบหมายให้ทางกระทรวงเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองที่อยู่ติดกับหัวเมืองใหญ่ให้มีการท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อขยายฐานการท่องเที่ยว พร้อมกับขยายการท่องเที่ยวชุมชนให้มากขึ้นโดยให้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. มาร่วมทำแผนงาน และสามารถใช้งบประมาณมาใช้ภาคการท่องเที่ยวได้ หลังจากที่รัฐบาลได้ปลดล็อคข้อกฎหมายให้ใช้งบท้องถิ่นได้ โดยต้องเห็นภาพชัดภายใน 2 เดือนให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ ในทุกรูปแบบการเส้นทางให้เข้าถึง ได้ทั้งสายการบิน รถไฟ และให้ทำงานร่วมกับ กรมทางหลวงชนบท ในการปรับปรุงเส้นทางโดยใช้ทางลาดยางเป็นหลัก เพื่อให้สามารถใช้เป็นเส้นทางจักรยานในการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศอีกด้วย
ขณะที่ กลุ่มสินค้า OTOP ปรับปรุงให้ทันสมัย น่าสนใจ และจะต้องอยู่ในพื้นที่การผลิตที่อยู่ในแหล่งชุมชนเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ลงพื้นที่สัมผัสวิถีชุมชน และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมเสนอมาตรการ สนับสนุนทางภาษีในการท่องเที่ยวเมืองรองให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน 2-3 สัปดาห์
สำนักข่าววิหคนิวส์