ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “หญิงไก่”ผิดคดีค้ามนุษย์ 4 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดเหลือ 3 ปี โดยไม่รออาญา พร้อมให้ชดใช้ 590,007 บาท
แนวหน้า – ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 10.00 น.วันที่ 19 ต.ค.60 ศาลอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ ที่ คม.76/2559 โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ อายุ 60 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปีฯ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4 , 6 และ 52
ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.59 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า ประมาณต้นเดือน มิ.ย.49–ปลายเดือน ต.ค.53 น.ส.ดาลิน หล้าคำ อายุ 19 ปี ผู้เสียหาย สมัครทำงานเป็นแม่บ้านไว้ที่ศูนย์จัดหางานใน จ.ปทุมธานี ต่อมาศูนย์ฯ ส่งตัวไปทำงานกับจำเลยที่ประชานิเวศน์คอนโด เขตจตุจักร กทม. ระหว่างนั้นจำเลยหลอกลวงบังคับใช้แรงงานผู้เสียหายให้ทำงานบ้านตั้งแต่เวลา 05.00 น.–22.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด โดยให้เพียงค่ายังชีพเล็กน้อย แทนค่าจ้าง และยังข่มขู่ว่า หากผู้เสียหายไม่ยอมทำงาน และจะกลับบ้าน จำเลยก็จะแจ้งตำรวจจับ บิดา-มารดาของผู้เสียหายที่พักอยู่ต่างจังหวัด จนผู้เสียหายเกิดความกลัวว่าเกิดอันตรายต่อชีวิตและเสรีภาพทั้งกับตัวเองและบิดามารดา เพราะเคยเห็นจำเลยแจ้งตำรวจให้จับกุมดำเนินคดีกับลูกจ้างคนอื่นที่ออกจากงานด้วยการกล่าวหาว่าลักทรัพย์ ทำให้ผู้เสียหาย ตกอยู่ในภาวะจำยอมทำงานให้จำเลย
ต่อมาระหว่างต้นเดือนพ.ค.51 – ปลายเดือน เม.ย.52 จำเลยยังหลอกลวง น.ส.กาญจนา ปองลาภสุนทร ผู้เสียหายอีกคน จาก จ.แม่ฮ่องสอน โดยไปอ้างกับบิดามารดาของผู้เสียหายว่า เป็นคุณหญิง ชอบช่วยเหลือคนยากจน จึงจะให้ผู้เสียหายมาทำงานด้วยที่ กทม. จะให้เงินเดือนๆละ 6,000 บาทพร้อมส่งเสียให้เรียนฟรีโดยจำเลยได้ให้เงินกับบิดามารดาไว้ 5,000 บาทเพื่อให้ความยินยอมพาผู้เสียหายมา แต่ภายหลังเมื่อจำเลยพาผู้เสียหายมาพักที่ประชานิเวศน์คอนโดแล้วได้ยึดบัตรประชาชนไว้ ก่อนบังคับทำงานเช่นเดียวกับผู้เสียหายรายอื่นๆ โดยไม่ส่งเสียให้เรียน
นอกจากนี้เมื่อต้นเดือน ก.ค.52 – ก.พ.53 จำเลยได้หลอกลวง น.ส.ขวัญจิรา จิรสกุลโชคชัย อายุ 17 ปีเศษ ผู้เสียหายให้มาทำงานแม่บ้านที่ประชานิเวศน์คอนโดของจำเลย อ้างว่าจะให้เงินเดือนๆละ 4,500 บาท และให้ผู้เสียหายเรียกว่า “คุณหญิง” กับบังคับใช้แรงงานตั้งแต่ 05.00 น. –23.00 น. ไม่มีวันหยุดโดยให้ทำงานบ้านและนวดตัวให้จำเลย ซึ่งเป็นการบังคับใช้แรงงานเด็กมีลักษณะคล้ายกับการเอาคนลงเป็นทาสด้วยวิธีการข่มขู่
ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้วเห็นว่า จำเลยรับผู้เสียหายทั้ง 3 คน เข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านจริง ระหว่างทำงานจำเลยให้เงินเป็นค่ายังชีพเล็กน้อยแก่ผู้เสียหาย แต่ไม่จ่ายเงินเดือน ขณะที่น.ส.ดาลิน ผู้เสียหายที่ 1 และ น.ส.ขวัญจิรา ผู้เสียหายที่ 3 ศาลยังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีพฤติการณ์ข่มขู่ หรือเข้าข่ายความผิดตามฟ้อง เนื่องจากไม่ได้ยึดบัตรประจำตัวประชาชน ผู้เสียหายรวมทั้งผู้เสียหายทำงานด้วยความสมัครใจ พยานหลักฐานในส่วนนี้จึงรับฟังไม่ได้ว่า ผู้เสียหายทั้งสองต้องทำงานต่อเนื่องตั้งแต่ 05.00 น. – 22.00 น. จริงหรือไม่
รวมทั้งกรณีจำเลยบอกกับบิดาของน.ส.ขวัญจิราว่า หากลูกสาวไม่ยอมทำงานต่อ จะดำเนินคดีกับบิดาและมารดานั้น ศาลเห็นว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัด ฟังไม่ได้ว่าเป็นการข่มขู่เพื่อแสวงหาจากการบังคับใช้แรงงาน
ส่วนน.ส.กาญจนา ผู้เสียหาย ที่ 2 จำเลยได้ยึดบัตรประชาชน มาเก็บไว้ และไม่จ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงกันไวั เดือนละ 6,000 บาท รวมถึงไม่ส่งให้เรียนพยาบาลตามที่จำเลยเสนอให้ผู้เสียหายก่อนหน้านี้ แม้งานบ้านจะไม่มาก ผู้เสียหายเพียงคนเดียว สามารถกระทำได้ แต่การยึดบัตรประชาชนไว้ เล็งเห็นว่าจำเลยมีเจตนาหาประโยชน์โดยมิชอบจากการใช้แรงงาน จำเลยจึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ ฯ
พิพากษาจำคุก 4 ปี คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกจำเลยไว้ 3 ปี และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหายที่ 2 เป็นเงิน 590,007 บาทด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมา ศาลอาญาได้พิพากษาจำคุก หญิงไก่ รวม 7 ปี 6 เดือน ฐานดูหมิ่นเบื้องสูงมาแล้ว
สำนักข่าววิหคนิวส์