26 พ.ย.2560 ครอบครัวตัญกาญจน์ แถลงข่าว ขอบคุณนายกฯ และทุกฝ่ายรับปากให้ความเป็นธรรม รอความกระจ่างสิ้นใจเพราะอะไรแน่ หากผลสรุปว่า “น้องเมย” ถูกทำร้าย ขอให้นำตัวคนผิดมาลงโทษ เผย ยังติดใจทำไมตับ-ม้ามคั่งเลือด ทั้งที่ห่างจากจุด CPR
thairath – เมื่อเวลา 11.30 น. นายพิเชษฐ พร้อมด้วย นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่ และพี่สาวของ “น้องเมย” หรือ นายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิต เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ จ.ชลบุรี อีกครั้ง เพื่อกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ให้โอกาสกับทางครอบครัวและรับปากว่าจะให้ความเป็นธรรม โดยสิ่งที่ครอบครัวอยากฝากไปยังผู้ใหญ่ทั้ง 3 ท่านคือการสร้างความกระจ่างเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต รวมทั้งหากเกิดจากการถูกกระทำให้เสียชีวิต ขอให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมขอร้องให้ผู้ไม่หวังดีหยุดการให้ร้ายผู้ตายว่าฆ่าตัวตายเอง หรือแม้แต่เกิดจากโรคประจำตัว


“เราต้องชมทีมแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ก่อนว่าการทำ CPR 4 ชั่วโมงที่ทุกคนบอกว่ามันเป็นการทำงานที่หนักและมาราธอน เพราะทางครอบครัวได้ร้องขอให้แพทย์ช่วยปั๊มหัวใจจนกว่าจะเดินทางจาก จ.ชลบุรี ไปถึง จ.นครนายก ซึ่งเราต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูง แต่เมื่อเราได้เล่าข้อเท็จจริงนี้กับแพทย์ศัลยกรรม อุบัติเหตุที่ให้ความกรุณากับครอบครัว ท่านยืนยันว่า แม้การทำ CPR จะยาวนานถึง 4 ชั่วโมง ก็ไม่น่าจะกระทบถึงม้ามและตับ ก็เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบต่อไป เช่นเดียวกับกรณีที่แพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ บอกว่าเซลล์หัวใจของน้องโตกว่าเด็กปกติ ซึ่งหากน้องเสียชีวิตโดยภาวะหัวใจโต เรายอมรับได้ว่าเกิดจากตัวโรค ส่วนการมีรอยช้ำประกอบกับอาการหัวใจโต ต้องสืบหาว่าเกิดจากการถูกทำร้าย หรือสาเหตุใด เพราะวันที่ 13 ต.ค. ก่อนเสียชีวิต ทางครอบครัวพาน้องไปตรวจร่างกายที่ ต้องหาคำตอบต่อไป เช่นเดียวกับกรณีที่แพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ บอกว่าเซลล์หัวใจของน้องโตกว่าเด็กปกติ ซึ่งหากน้องเสียชีวิตโดยภาวะหัวใจโต เรายอมรับได้ว่าเกิดจากตัวโรค ส่วนการมีรอยช้ำประกอบกับอาการหัวใจโต ต้องสืบหาว่าเกิดจากการถูกทำร้าย หรือสาเหตุใด เพราะวันที่ 13 ต.ค. ก่อนเสียชีวิต ทางครอบครัว พาน้องไปตรวจร่างกายที่ รพ.สมิติเวช ศรีราชา จากอุบัติเหตุตกบันได ก็ได้เข้าเอกซเรย์ช่วงปอดพบว่าในจุดที่เป็นรอยโล่ง ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ขณะที่ขนาดของหัวใจถูกระบุว่าเท่าปกติเช่นคนทั่วไป และไม่มีจุดใดบ่งชี้ว่าผนังหัวใจโตหรือผิดปกติ ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ยังคงให้ความเป็นธรรมเช่นเดิม และที่ว่าเมื่อจะเริ่มผ่าชิ้นส่วนน้อง จะอนุญาตให้เมี่ยง และน้าสาวซึ่งเป็นพยาบาลเข้าดูได้ ก็คงจะได้มีโอกาสถามว่าอาการหัวใจโตเกิดจากอะไร”

ส่วนกรณีที่มีการโจมตีเรื่องจดหมายที่ น้องเมย เขียนถึงเพื่อนที่กำลังจะลาออกจากโรงเรียน ได้ขอให้กลุ่มผู้ปกครองนักเรียนอย่าโจมตีครอบครัวของอดีตนักเรียนเตรียมทหารดังกล่าว เพราะจดหมายที่ได้รับเป็นเพียงการให้กำลังใจซึ่งกันและกันเท่านั้น ส่วนที่เป็นข่าวอีกครั้ง ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจทำให้โรงเรียนเสียหายแต่อย่างใด
สำนักข่าววิหคนิวส์

