ข่าวประจำวัน » วิบากกรรม”ทนายตั๋ม”!! นักกฏหมายต้องกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีในวิชาชีพทนายคืนมา

วิบากกรรม”ทนายตั๋ม”!! นักกฏหมายต้องกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีในวิชาชีพทนายคืนมา

6 February 2020
916   0

 

ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายโพสเฟสบุ๊คถึงคดีที่ทนายตั้มโดนจับไว้ว่า

ข่าว ทนายตั๋ม หลังจากได้รับอนุญาตจาก สน.มีนบุรี อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี

ทนายตั้ม ได้เดินทางมาพบ พนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อเข้ามอบตัวสู้คดี หลังทราบข่าวมีหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับมอบตัวเนื่องจากยังไม่เห็นหมายศาล นั้น

ทั้งนี้ถ้าหากพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้จริง ไม่จำเป็นต้องรอหมายจับจากศาลสามารถมอบตัวได้เลย ไหนๆก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ถ้าทนายความ โดนกล่าวหาว่า “นำสืบพยานหลักฐานเท็จ” อีกหน่อยก็ทำงานของทนายความ”มีเอกสารอะไรที่ได้จากตัวความ”ต้องให้ลงชื่อไว้ในเอกสารทั้งหมด เพื่อป้องกันถูกกล่าวหาว่า” ทำเอกสารเท็จ”แต่ถ้าเอกสารนั้น เป็น”เอกสารทางราชการ “หากเป็นเท็จ ” ผู้ทำเอกสารนั้น ย่อมต้องมีความผิดด้วย

แต่ต้องเห็นใจ”ตำรวจ” เมื่อมีคนกล่าวหาว่า มีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับความผิดทางอาญาแผ่นดิน ก็ต้องมีการสอบสวน ถ้าไม่สอบสวนตำรวจก็มีความผิด ถ้าสอบสวนไปแล้ว”ทนายตั๋ม”ผู้ถูกกล่าวหา “ไม่ผิด” ตำรวจเองก็อาจถูกดำเนินคดีเสียเองได้ เหมือนกัน

ทนายตั๋ม เป็นนักกฏหมายต้องกู้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และศักดิ์ศรีในวิชาชีพทนายคืนมา กลับคืนสู่ฐานะเดิมอย่างแน่นอนแม้ตำรวจจะฝ่าฝืนต่อความรู้สึกว่า “ทำไม่ต้องมาทำคดีแบบนี้ไม่มีความสุขเลยก็ตาม ” ก็ต้องให้ข้อเท็จจริงปรากฏแม้ตำรวจจะฝ่าฝืนต่อความรู้สึกว่า “ทำไม่ต้องมาทำคดีแบบนี้ไม่มีความสุขเลยก็ตาม “ก็เพื่อให้สังคมสิ้นข้อระแวงสงสัยทั้งนี้พยานหลักฐานที่ตำรวจหาว่า “ทนาย” ที่นำสืบหลักฐานเท็จ หากเป็นคดีที่ศาลตัดสินเสร็จเด็กขาดไปแล้ว

ตำรวจไปกล่าวหา “ทนาย” กระทำผิดตามแนวฎีกาถือว่าตำรวจมีเจตนาพิเศษ หาก”ทนาย”ไม่มีความผิดอาจถูกกล่าวหาไปกลั่นแกล้งเค้าฯได้ ยิ่งถ้าเอกสารนั้นเป็นเอกสารทางราชการ ผู้ทำเอกสารไปรับรองต่อศาลวว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง และได้จากการสอบสวน และศาลก็เชื่อตามเอกสารนั้นโดยปราศจากข้อระแวงสงสัยพิพากษาให้เป็นคุณแก่จำเลยในคดีนั้น ต่อมาผู้ทำเอกสารนั้น ไปรับผิดกับ”ตำรวจ” ว่า “ทนายมาจ้าง”กันเป็นพยานเพื่อเอาผิดกับุคคลใดๆบุคคลหนึ่งโดยไม่ถูกดำเนินคดี ผู้ทำเอกสารนั้นอาจมีความผิดฐานประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลได้

อีกทั้งพยานมีค่าตอบแทนที่ไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อมีคู่ความตั้งข้อสังเกตุ ร้องต่อตำรวจ ย่อมมีน้ำหนักน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะฟังไม่ได้เสียที่เดียว ตำรวจไม่ใช่ศาล คดียังต้องผ่านขั่นตอนกระบวนการยุติธรรมตามระดับชั้น เช่น อัยการ และศาล  ผู้ทำเอกสารรู้อยู่แล้วยังไปเบิกความต่อศาล”ว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ต่อมาสำนึกผิดำปบอกตำรวจว่า “ทนาย” จ้างเชื่อว่าไม่มี”ทนายความที่ไหนยอมให้เหตุการอย่างนี้ ผ่านพ้นไปอย่างแน่นอน

คดี”ทนายตั๋ม” ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดนั้นได้ผ่านขั้นตอนขบวนการยุติธรรมถึงที่สุดแล้ว หากตำรวจสามารถรื้อฟื้นคดีขึ้นใหม่ได้ต้องไปแก้กฏหมาย ไม่อย่างนั้นจะเป็นบรรทัดฐานกับ”ทนายความ”ทั่วไป แต่อย่างไรก็ดี ผู้รับจ้างจัดทำเอกสารถ้าเอกสารนั้นเท็จจริง ก็ถือว่ามีส่วนทำให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษหรือรับโทษน้อยลงฐานหนึ่ง และอีกฐานหนึ่ง”อาจมีความผิดฐานเบิกความเท็จได้

แม้ตำรวจไม่ดำเนินคดีกับผู้รับจ้าง”ทนายความเค้ามีวิธีการดำเนินคดีได้ตำรวจทำไมต้องขอศาลออกหมายจับ “ทนาย”มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จะหลบหนี้ไปไหน ข่าวเพิ่งได้รับอนุญาตให้ประกันคัวมาหนึ่งคดีแล้ว” หรือเป็นวิบากกรรม “ทนายตั๋ม “กับชีวิตนักสู้ มาโดยตลอด  ผมเอาใจช่วยนะครับ

ดร. สุกิจ พูนศรีเกษม

6 กุมภาพันธ์ 2563