เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายฮวน ไกวโด รักษาการประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อผู้ชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดี นิโกลาส มาดูโร ที่ยังคงอ้างตัวเป็นผู้นำที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศบริเวณพื้นที่ชุมนุมทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงการากัส เรียกร้องให้ชาวเวเนซุเอลาทั่วประเทศ เดินทางเข้ามายังเมืองหลวง เพื่อสร้างปรากฏการณ์ชุมนุมใหญ่กดดันนายมาดูโรให้พ้นจากตำแหน่ง หลังจากที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านพลังงานอย่างหนักขึ้นในประเทศ จนเกิดไฟดับเป็นวงกว้างรวมทั้งในเมืองหลวงต่อเนื่องกันเป็นเวลา 3 วันแล้ว และหากนายมาดูโรไม่วางอำนาจทุกคนจะเดือดร้อนขนานใหญ่ต่อไปในอนาคต
การจัดชุมนุมต่อต้านนายมาดูโรครั้งนี้ เรียกความสนใจจากชาวเวเนซุเอลา ที่จัดขบวนเดินฝ่าตามเส้นทางหลักในกรุงการากัสเพื่อไปยังพื้นที่ชุมนุม เกิดกระทบกระทั่งและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่รักษาความสงบอยู่เป็นจำนวนมากไปตลอดทางเนื่องจากเจ้าหน้าที่พยายามผลักดันให้ผู้เดินขบวนลงจากพื้นผิวถนนไปใช้ฟุตบาธ ในขณะที่พรรคโซเชียลิสต์ ปาร์ตีของนายมาดูโรเองก็จัดการเดินขบวนและชุมนุมทางการเมืองขึ้นต่อต้านอีกฝ่าย นายมาดูโรขึ้นกล่าวต่อที่ชุมนุมกล่าวหาว่าสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลังไฟดับครั้งใหญ่นี้ ซึ่งติดๆ ดับๆ ต่อเนื่องเป็นพื้นที่กว้างรวม 6 รัฐจาก 32 รัฐทั่วประเทศ รวมทั้งภายในบริเวณทำเนียบมิราฟลอเรส ของประธานาธิบดีเวเนซุเอลาด้วย
ขณะที่นายอันโตนิโอ เลเดซมา อดีตนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านซึ่งลี้ภัยอยู่นอกประเทศออกมาเรียกร้องให้นายไกวโด ประกาศใช้มาตรา 187 ตามรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้กองกำลังของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ในเวเนซุเอลา ตามหลักการเพื่อแสดงความรับผิดชอบและคุ้มครองของยูเอ็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสังหารหมู่ขึ้น อย่างไรก็ตาม นายไกวโดยืนยันจะยังไม่ใช้บทบัญญัติดังกล่าวจนกว่าถึงเวลาจำเป็นจริงๆ
Cr.ประชาชาติธุรกิจ
สำนักข่าววิหคนิวส์