“บิ๊กป้อม”ใส่นาฬิกาข้อมือซ้ายแทนข้างขวาที่เกิดอาการนิ้วล็อค แต่ยังไม่ยอมตอบปมที่มาอยู่ดี ขณะที่เจ้าเก่า”วีระ”ดับเครื่องชน บุกยื่นหนังสือจี้ป.ป.ช.สอบจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ-เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหลังนาฬิกาหรูโผล่ 10 เรือนมูลค่าเกือบ 24 ล้านบาท เผยประวิตรยังไม่ชี้แจงปมร้อน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 26 ธันวาคม 2560 Naewna ที่สถาบันพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย จ.สุโขทัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังประชุมครม. สัญจรว่า อาการนิ้วล็อคที่มือด้านขวาอาการดีแล้ว หายแล้ว
เมื่อถามว่า ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีนาฬิกาหรูต่อป.ป.ช.แล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ได้แต่ยิ้มเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้พันผ้าพยุงข้อมือและนิ้วเนื่องจากอาการนิ้วล็อคที่มือข้างขวา จึงสังเกตเห็นว่าในวันนี้พล.อ.ประวิตร ได้สวมนาฬิกาบนข้อมือซ้ายแทนที่ข้อมือขวาที่มักสวมเป็นประจำ
เวลา 11 .00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือต่อป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรให้ทราบ และมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ พร้อมหลักฐานเอกสารกว่า 11 ชุดภาพถ่ายนาฬิกาหรูยี่ห้อต่างๆ
นายวีระ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องยื่น 2 ข้อกล่าวหาคือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิด และเข้าข่ายมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกตินั้นเนื่องจากถือเป็นความผิดคนละมาตรา การที่พล.อ.ประวิตรไม่แสดงรายการทรัพย์สินโดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือราคาแพงจำนวน 10 เรือน ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 24ล้านบาทนั้นจึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงให้ทราบ
ส่วนกรณีข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกตินั้น เนื่องจากพล.อ.ประวิตรมีทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้ยื่นบัญชีแจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 จำนวนกว่า 87 ล้านบาท มารวมกับราคานาฬิกาข้อมือจำนวน 10 เรือนดังกล่าวที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 23.98 ล้านบาท ทำให้เชื่อได้ว่าพล.อ.ประวิตรมีทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 111,353,757.62 บาท แต่รายได้ของพล.อ.ประวิตรที่ได้รับตั้งแต่รับราชการทหารยศร้อยตรี เมื่อปี13 มีเงินเดือนประมาณ 2,000 บาท และถ้ารวมเงินเดือนจนถึงปัจจุบันกว่า 30 ปี ก็ไม่น่าถึง20 ล้านบาท
“ดังนั้น พล.อ.ประวิตร จึงมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 111 ล้านบาท จึงเป็นการมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ เข้าข่ายมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 ดังนั้น จึงขอให้คณะกรรมการ ปปช.ดำเนินการไต่สวน และแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบต่อไป” นายวีระ กล่าว
พร้อมระบุว่า หลังจากนี้ตนเชื่อว่าจะมีข้อมูลข้อเท็จจริงเรื่องนาฬิกาหรูออกมาอีก ซึ่งยังไม่รวมแหวนเพชร แหวนพลอยล้อมเพชรอีกหลายวง รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ เช่น พระเครื่อง ตนจะทยอยรวบรวมข้อมูลหลักฐานมายื่นต่อปปช.ต่อไป
ทางด้านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ชป. ตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน กล่าวว่า จะนำคำร้องนี้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณา เนื่องจากเคยมีผู้ร้องในประเด็นนี้มาแล้ว รวมทั้งยังคงรอหนังสือชี้แจงที่มาของทรัพย์สินจากพล.อ.ประวิตร ซึ่งตามกำหนดต้องยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในวันที่ 8 มกราคม 2561 แต่จนถึงขณะนี้ ทาง ป.ป.ช. ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจง หากได้รับมาแล้ว เชื่อว่าจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เนื่องจากเป็นประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีระได้ยื่นหลักฐานเอกสารกว่า 11 ชุด ทั้งภาพถ่ายนาฬิกาหรูยี่ห้อต่างๆจำนวนหนึ่ง และบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของพล.อ.ประวิตร หลังจากพ้นตำแหน่งรมว.กลาโหมเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2554 แจ้งว่ามีทรัพย์สินทั้งสิน 97,063,414 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 10 บัญชี จำนวน 28,843,256 บาท เงินลงทุน 1 รายการ (บริษัท ดีบีเอสวิคเตอร์ ประเทศไทย จำกัด) จำนวน 23,120,158 บาท ที่ดิน 3 แปลงจำนวน 17 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 แห่ง จำนวน 10 ล้านบาท ยานพาหนะ 1 คัน จำนวน 100,000 บาท
จากนั้น ได้ยื่นบัญชีเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2560 ปรากฏว่าแสดงรายการทรัพย์สินอื่น แต่ปรากฏว่าไม่มีการแจ้งเรื่องนาฬิกาข้อมือ และแหวนเพชร รวมถึงทรัพย์สินอื่นใด
สำนักข่าววิหคนิวส์