สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับนโยบายการเปิดบ่อนการพนันในประเทศไทยอ้างอิงข่าวจากเว็บไซต์ข่าวด้านการพนันในสหรัฐอเมริกาว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา นายร็อบ โกลด์สตีน ประธานผู้บริหารบริษัทลาสเวกัส แซนด์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารบ่อนการพนัน มีที่ตั้งหลักอยู่ที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาด้า ได้ออกมายืนยันว่าตัวเขามีความสนใจจะลงทุนในประเทศไทย โดยเขาได้ยืนยันเรื่องนี้ในการตอบคำถามกับนักวิเคราะห์วาณิชธนกิจเกี่ยวกับผลการดำเนินงานบริษัทในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ที่ผ่านมา
นายโกลด์สตีนตั้งข้อสังเกตว่าการเปิดคาสิโนในประเทศไทยนั้นน่าจะทำได้เร็วกว่าเปิดคาสิโนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยนักวิเคราะห์บางคนชี้ให้เห็นว่าคาสิโนแห่งแรกของประเทศไทยน่าจะเปิดได้ในปี 2572 นำหน้าคาสิโนเอ็มจีเอ็ม โอซาก้า ที่จะเปิดได้ในปี 2573
“ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ ตอนนี้มันเป็นช่วงเริ่มแรก แม้ว่าเรายังมีงานต้องทํากับตัวเลขและทําความเข้าใจกับมัน” นายโกลด์สตีนกล่าว
ประธานบริษัทลาสเวกัส แซนด์กล่าวต่อไปว่าประเทศไทย “เป็นตลาดที่น่าตื่นเต้นมากในหลายระดับ เนื่องจากจํานวนประชากร การเข้าถึง และความเต็มใจของผู้คนที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน ผมคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศปลายทางรีสอร์ทอันดับหนึ่งในเอเชีย”
เมื่อเดือน มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้เคยรายงานข่าวว่าบริษัทให้บริการด้านการพนันอย่างเอ็มจีเอ็ม รีสอร์ท อินเตอร์เนชั่นแนล (MGM Resort International) และบริษัทกาแล็กซี่ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กรุ๊ป (Galaxy Entertainment Group) ก็กำลังศึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปิดคาสิโนในประเทศไทย
ยิ่งไปกว่านั้นธนาคาร Maybank ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนมีสำนักงานใหญ่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้เคยออกมากล่าวว่าบริษัทเก็นติ้ง สิงคโปร์ (Genting Singapore) อาจจะเดินหน้าประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการคาสิโนที่ไทย
โดยข้อเสนอของรัฐบาลไทยในการเก็บภาษีรายได้จากการเล่นคาสิโนขั้นต้น (GGR) ในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ (17%) รวมกับแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง เป็นการส่งสัญญาณถึงสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรสําหรับนักลงทุนกิจการบ่อน