เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ลากไส้ปิยบุตร ! 2 นักวิชาการ ซัดโยงมั่วยุคพระเจ้าเอกทัศ เอี่ยว ม.112

#ลากไส้ปิยบุตร ! 2 นักวิชาการ ซัดโยงมั่วยุคพระเจ้าเอกทัศ เอี่ยว ม.112

28 November 2022
214   0

   28 พ.ย.2565 – สืบเนื่องจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับมาตรา 112 ว่า จากคดี 112 วิจารณ์เศรษฐกิจพอเพียง ที่ผู้พิพากษาลงความเห็นว่า กล่าวถึงราชบิดาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ผิด 112 ถ้ายึดตามมาตรฐานแบบนี้ ก็ไม่ต้องเรียนประวัติศาสตร์กันแล้ว เพราะเราจะวิจารณ์ รัชกาลที่ 6 พระเจ้าตากสิน พระเจ้าเอกทัศ หรือหนังสุริโยไทก็วิจารณ์ขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์ ไม่ได้เลย!

ล่าสุดมีความเห็นโต้แย้งจาก นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ ว่า “ความคิดของปิยบุตรที่ยกตัวอย่างอดีตพระมหากษัตริย์อย่างพระเจ้าเอกทัศมาอ้าง แล้วนำไปพัวพันกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ตัวเขาตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ย่อมสะท้อนให้เห็นความไม่เข้าใจและไม่รู้ความจริงทางประวัติศาสตร์ เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ราชวงศ์อยุธยาจบไปแล้วครับ เพราะถ้าจะใช้บริบทสมัยอยุธยาแล้วไซร้ ปิยบุตรและโคตรเหง้าคงถูกตัดหัวเรียงตัวจากชั้นบนลงล่าง 7 ชั่วโคตรไปแล้ว

พระเจ้าเอกทัศ ราชวงศ์อยุธยา จบไปแล้วเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันคือเรื่องปัจจุบัน ถ้าปิยบุตรยังทำแบบนี้ต่อไปคนจำนวนหนึ่งคงเคียดแค้นและรำคาญ สังคมก็จะวุ่นวายสับสนต่อบทบาทและมารยาททางการเมืองของปิยบุตร”

เช่นเดียวกับ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าฝนตกขี้หมูไหล นักกฎหมายอะไรหมกมุ่นบิดเบือนให้ร้าย กุเรื่องโจมตี ม.112 แบบมั่วๆ ?

ม.112 เป็นกฎหมายอาญาในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนปกป้องความมั่นคงแห่งราชบัลลังก์

ผู้กระทำความผิด ม.112 จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เห็นต่างหรือผู้วิจารณ์ตามที่เขาหลอกลวง หากแต่เป็นผู้กระทำการหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

จากตอนหนึ่งของคำพิพากษา​ศาลฎีกา​ที่​ 6374/2556 ความว่า “…การที่กฎหมายมิได้บัญญัติว่า พระมหากษัตริย์จะต้องครองราชย์อยู่เท่านั้น ผู้กระทำจึงจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แม้จะกระทำต่ออดีตพระมหากษัตริย์ซึ่งสวรรคตไปแล้ว ก็ยังเป็นความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว การหมิ่นประมาทอดีตพระมหากษัตริย์ก็ย่อมกระทบถึงพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันที่ยังคงครองราชย์อยู่…”

ย่อมแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การพิจารณาถึงขอบเขตที่แท้จริงๆ ของ ม.112 ต้องคำนึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันที่ยังคงครองราชย์อยู่ด้วย

ดังนั้น ม.112 จึงให้คุ้มครองทางอาญาแก่พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันผู้ทรงครองราชย์ ตลอดจนครอบคลุมถึงบูรพมหากษัตริย์ทั้งหมดในราชวงศ์จักรีแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

แต่นักกฎหมายบางคนกลับบิดเบือนแบบมั่วๆ คิดเอาเองว่า ม.112 ให้ความคุ้มครองย้อนไปถึงพระเจ้าเอกทัศในสมัยอยุธยา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องหรือกระทบต่อราชบัลลังก์ปัจจุบันเลย

พฤติกรรมของนักกฎหมายคนนี้จึงจงใจสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ต่อ ม.112 หวังสร้างความเกลียดชังและความแตกแยกในสังคมให้เกิดขึ้นบนพื้นฐานของการโกหกบิดเบือน

แม้แต่ความผิดฐานหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดายังครอบคลุมถึงการใส่ความผู้ตายอันเป็นเหตุให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ตายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอีกด้วย

มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไรที่ ม.112 จะให้ความคุ้มครองบูรพมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี จากการหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้าย ซึ่งขัดต่อหลักประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน”