อาจารย์”อานนท์”ยื่นใบลาออกจากผอ.นิด้าโพลแล้ว ลั่นจำกัดเสรีภาพทางวิชาการเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ยกกรณีผลสำรวจคดียิ่งลักษณ์ตอบโต้อธิการบดี ย้ำถ้าผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาสั่งเซ็นเซอร์เองถือว่าร้ายแรงยิ่งกว่ารัฐบาลทำ
แนวหน้า-ด้าน”ประดิษฐ์”ยันไม่มีใบสั่งจากรัฐบาลคสช.แต่ห่วงเป็นการชี้นำสังคม ยืนกรานต้องตรวจสอบทุกประเด็นคำถามเพื่อไม่ให้ใช้เป็นเครื่องมือ ส่วน”บิ๊กตู่”ลั่นไม่เอี่ยวเหน็บสื่อขยายความทำบ้านเมืองไม่สงบ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 29 ม.ค.61 นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สาขาวิชา Business Analytics and Intelligence สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในฐานะผู้อำนวยการนิด้าโพล ได้เซ็นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังถูกผู้บริหารสถาบันสั่งระงับการเผยแพร่ผลสำรวจเรื่อง “นาฬิกาที่ยืมเพื่อน เป็นเรื่องบิดเบือนหรือเรื่องจริง?”
ยกกรณีทำโพลปูตอบโต้อธิการบดีฯ
นายอานนท์ กล่าวว่า การระงับไม่ให้เผยแพร่การสำรวจความคิดเห็นดังกล่าว ถือเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพทางวิชาการอย่างรับไม่ได้ หากอธิการบดีเห็นว่าการสำรวจความคิดเห็นกรณีแหวนเพชร และนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตรไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ก็ต้องถามกลับว่า กรณีโครงการจำนำข้าวซึ่งเกี่ยวข้องกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งนิด้าโพล ก็สำรวจความคิดเห็นประชาชน ทำไมอธิการบดีไม่สั่งระงับผลโพลดังกล่าว แล้วการทำโพลโครงการจำนำข้าวถือว่าเป็นการล่วงอำนาจของศาลหรือไม่
โยนอธิการตอบคำถามสังคมเอาเอง
“ผลโพลจะออกมาอย่างไรนั้น ผมคงบอกไม่ได้ อธิการบดีเป็นคนสั่งระงับ อธิการบดีก็ต้องเป็นคนเผยแพร่ หรือต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ กรณีนี้ผมรู้สึกว่าเป็นการเซ็นเซอร์ตัวเองของสถาบันการศึกษา ซึ่งคนที่ทำแบบนี้จะหวังผลทางการเมืองอะไรในอนาคตหรือไม่นั้น ผมคงบอกไม่ได้ ผลโพลที่ออกมาอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่สาเหตุที่อยากให้เผยแพร่ เพราะเป็นความคิดเห็นของประชาชน ผมมีหน้าที่นำเสนออย่างเที่ยงตรง ตามหลักวิชาการ ดังนั้น หากผมทำไม่ได้ ผมก็ลาออก” นายอานนท์ กล่าว
สอนหนังสือตามปกติไม่ยุ่งการเมือง
นายอานนท์ กล่าวต่อว่า หลังจากลาออกจากผู้อำนวยการนิด้าโพลแล้ว ตนตั้งใจจะเป็นอาจารย์ตามปกติ ไม่ได้คิดที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง การทำงานจากนี้ คิดว่าไม่มีอะไรมากดดันผมได้ ตราบใดที่ตนยังยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ในฐานะนักวิชาการมเชื่อว่าความดีจะคุ้มครอง วันนี้ตนไม่เสียใจที่ผลสำรวจครั้งนี้ไม่ได้รับการเผยแพร่ ถือว่าได้ทำหน้าที่โดยสมบูรณ์แล้ว
ชี้ร้ายแรงกว่ารัฐบาลสั่งเซ็นเซอร์
“สิ่งที่สังคมจะได้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ Self censorship ในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งการเซ็นเซอร์ตัวเองในสถาบันอุดมศึกษา เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ สถาบันอุดมศึกษาต้องเป็นที่พึ่งของสังคม ถ้าสถาบันอุดมศึกษาเซ็นเซอร์ตัวเอง โดยผู้บริหารสั่งเซ็นเซอร์เอง ร้ายแรงยิ่งกว่ารัฐบาลสั่งเซ็นเซอร์ เสรีภาพทางวิชาการเป็นเรื่องที่สำคัญ” นายอานนท์ กล่าว
เปิดผลสำรวจฉบับพ่นพิษ
มีรายงานว่า สำหรับผลโพล”นาฬิกาที่ยืมเพื่อน เป็นเรื่องบิดเบือนหรือเรื่องจริง?” มีการสำรวจ ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2561 จากประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไปทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ จำนวน 1250 หน่วยตัวอย่าง ผลสำรวจตอนหนึ่งระบุว่า เพื่อนเคยให้ยืมนาฬิกาหรูราคาแพงมาใส่? มีคนให้ความเห็นสูงถึงประมาณ 97% ว่า “ไม่เคย” และยังมีข้อความเห็น กรณีนักการเมืองอ้างว่าทรัพย์สินมูลค่าสูงมากที่มาจากการหยิบยืมนั้น ประมาณ 86% เชื่อว่า “ไม่เป็นความจริง”
อธิการบดียันไม่มีใบสั่งจากรัฐบาลคสช.
ด้าน นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยภายหลัง นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการนิด้าโพล ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการนิด้าโพลว่า การสั่งระงับผลสำรวจดังกล่าวไม่ได้รับใบสั่งจากรัฐบาลและ คสช. แต่เป็นเพราะกรณีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.หากเผยแพร่ผลสำรวจอกมา ก็จะเป็นการชี้นำสังคม ทั้งที่ยังไม่ได้มีการชี้มูลจาก ป.ป.ช.ว่ากรณีดังกล่าวมีความผิดหรือไม่
ย้ำสั่งระงับเพราะหวั่นชี้นำสังคม
นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ภาพรวมคำถามที่ถามประชาชนในการสำรวจหัวข้อดังกล่าว ก็เป็นการถามเพื่อให้ประชาชนตอบว่า ผิดหรือไม่ผิด จึงเกรงว่าจะเป็นการชี้นำ และเป็นการกระทำที่ยังไม่ถึงเวลา รวมทั้งไม่เหมาะสม ยืนยันว่า นิด้ามีสิทธิและเสรีภาพทางวิชาการ มีความเป็นกลางมาโดยตลอด ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง การดำเนินการใดๆ ต้องคำนึงถึงสังคมเป็นหลัก ที่ผ่านมาอาจารย์ของสถาบันสามารถขึ้นเวทีต่างๆ เพื่อแสดงความเห็นในนามส่วนตัวได้ตลอด เพียงแต่ไม่อนุญาตให้ขึ้นเวทีแสดงความเห็นในนามของนิด้าเท่านั้น
ไม่แคร์ผลโพล-แต่แคร์ประเด็นคำถาม
“ผมไม่เคยแคร์ผลโพล แต่แคร์ประเด็นคำถามที่ทำโพล อะไรที่ออกสื่อไปแล้ว ผมต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่ผมมาดำรงตำแหน่งอธิการบดี มีช่วงหนึ่งที่เป็นสุญญากาศ ยังไม่มีผอ.นิด้าโพล ผมก็เคยไปเสนอประเด็นคำถาม หลังจากนั้นผมจึงให้นิด้าโพลส่งประเด็นให้ดูก่อน แต่ไม่เคยขอแก้ไขตัวเลข และรัฐบาล และ คสช.ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” นายประดิษฐ์ กล่าว
ทำในฐานะอธิการฯปัดแลกเก้าอี้สว.
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุมาจากท่านจะไปดำรงตำแหน่ง ส.ว.ในอนาคต นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าขณะนี้จะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือไม่ แต่ตนก็ต้องดำเนินการเช่นนี้ในฐานะอธิการบดี และการสำรวจของนิด้าโพลที่ผ่านมา ไม่เคยถูกตำหนิจาก ป.ป.ช.หรือองค์กรใดมาก่อน
ยันต้องเซ็นเซอร์ทุกประเด็นสำรวจ
“หลังจากนี้ทีมผู้บริหารของนิด้ายังต้องพิจารณาประเด็นการสำรวจทุกประเด็น และต้องเซ็นเซอร์ตัวเองอยู่แล้ว ผู้บริหารของสถาบันไม่ได้ดูว่าผลสำรวจออกมาเป็นอย่างไร และไม่เคยแก้ไขตัวเลขหรือผลสำรวจ แต่ดูที่ประเด็นของการสำรวจเท่านั้น ไม่เช่นนั้น นิด้าโพลอาจถูกแทรกแซงและใช้เป็นเครื่องมือในการใช้ประโยชน์ได้” นายประดิษฐ์ กล่าว
มาร์คชี้สร้างปัญหาโดยใช่เหตุ
ส่วน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่กำลังจะสร้างปัญหาโดยใช่เหตุ ในที่สุดพอเรื่องเป็นแบบนี้ การลาออกของ ผอ.นิด้าโพล ทำให้คนไม่แน่ใจว่าไปเกี่ยวกับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือไม่ ทำให้ คสช.ติดลบไปด้วยแล้ว
“เรื่องนี้น่าหนักใจเพราะไม่เป็นผลดีกับใคร ความจริงควรให้เป็นไปตามปกติซึ่งไม่ได้เป็นปัญหา เมื่อสำรวจความคิดเห็นถูกต้องตามหลักวิชาการก็เผยแพร่ไป โปร่งใสชัดเจน ถามว่าอะไร ตอบว่าอะไร และไม่ได้เป็นส่วนที่จะบอกว่าคนนั้นถูกหรือคนนี้ถูก เพราะผมก็เห็นการสำรวจหลายสำนัก เวลาเกิดเหตุการณ์อะไรที่บอกว่าเชื่อคนนั้นหรือไม่ ชอบคนนี้หรือไม่ คิดว่าใครต้องเป็นคนรับผิดขอบเรื่องนั้นเรื่องนี้ ก็เห็นทำกันอยู่ตลอดเวลาก็ควรทำให้เป็นเรื่องปกติ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ปปช.ต้องตัดสินตามพยานหลักฐาน
ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่าเป็นการชี้นำเนื่องจาก ป.ป.ช.ยังไม่มีการสรุปผลสอบสวนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ป.ป.ช.ต้องตัดสินตามพยานหลักฐาน และมีมาตรฐานของตัวเอง และต้องชี้แจง ประชาชนจะเชื่อหรืออย่างไรก็ตาม แต่องค์กรอิสระก็ต้องตรงไปตรงมา อาจมีแรงกดดันก็เป็นเรื่องปกติธรรม ก็เหมือนกับทุกคดีที่เกิดขึ้นกับพระ หรือดาราที่มีชื่อเสียงอย่างไรก็มีแรงกดดันอยู่แล้ว เพราะว่ามีทั้งคนที่เชื่อ ที่ชอบ ก็ต้องว่ากันไป ดังนั้นถ้าเราปล่อยให้แต่ละฝ่ายทำหน้าที่กันเสียก็หมดเรื่อง
ห่วงกระทบเสรีภาพทางวิชาการ
“เรื่องนี้ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัว ผอ.นิด้า แต่ความสำคัญอยู่ที่เรากำลังกังวลเรื่องเสรีภาพทางวิชาการ และความกังวลที่ทำให้รู้สึกว่าถ้าบรรยากาศของบ้านเมืองบางเรื่องแตะต้องไม่ได้ตรวจสอบไม่ได้ มันไม่เป็นผลดีมากว่า ถ้าคลายตรงนี้ได้ สถานการณ์ก็จะดีขึ้น และเห็นว่าการเผยแพร่ผลสำรวจที่ชัดเจนน่าจะมีผลกระทบน้อยกว่าเยอะในทุกๆ ด้าน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
บิ๊กตู่ไม่เกี่ยวเรื่องผอ.นิด้าโพลลาออก
ที่โรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า “เป็นเรื่องของผู้อำนวยการคนดังกล่าวแล้วเกี่ยวอะไรกับผม ซึ่งผมก็เห็นข่าวจากทางโซเชียลมีเดียแล้วเขาบอกว่าไม่ได้ถูกบังคับ ทั้งนี้ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป สื่อก็ขยายความให้เขาไปเรื่อยๆก็แล้วกัน บ้านเมืองจะได้ไม่สงบดีไง”
สำนักข่าววิหคนิวส์

