สำหรับประโยคที่กล่าวกันไว้ว่า “อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกวินาที” นับได้ว่าเป็นเตือนให้ผู้ขับขี่ทั้งหลายพึงระวังเอาไว้ตลอดเวลา เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ก็สามารถเกิดได้ รวมถึงการขับขี่รถบนท้องถนนด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ก็ควรหาทางป้องกันเท่าที่จะทำได้
เนื่องจากในปัจจุบันนี้อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของไทยเลยก็ว่าได้ หากเรามีความรู้ในขั้นตอนการควบคุมรถยนต์และการปฏิบัติตนในขณะเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้สามารถช่วยลดอัตราการตายและการบาดเจ็บได้แน่นอน แต่ที่สำคัญที่สุดทุกคนก็ต้องมีสติชีวิตของเราถึงจะปลอดภัย
โดยก่อนที่ยางรถยนต์จะระเบิดนั้น มันอาจส่งสัญญาณเตือนให้คุณรู้ก่อนก็เป็นได้ ลองสังเกตดูว่า ในขณะขับรถอยู่นั้น รถเกิดอาการสั่นสะเทือน พวงมาลัยมีอาการสั่นผิดปกติ บังคับรถยากขึ้นโดยเฉพาะขณะเลี้ยวรถ หรือขับเข้าโค้ง ทั้งๆ ที่รถไม่ได้มีปัญหาเรื่องถ่วงล้อและศูนย์ล้อหน้าก็ปกติดี ไม่มีส่วนใดของรถที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ หากรถของคุณมีลักษณะดังกล่าว ให้ชะลอความเร็วแล้วหาที่ปลอดภัยจอดรถ เพื่อตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ทันที เพราะอาการเช่นนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ยางรถของคุณเริ่มบวมและพร้อมที่จะระเบิดแล้ว นั่นเอง ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว ควรปฏิบัติตนตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ตั้งสติให้มั่น
เมื่อเกิดเสียงยางระเบิดดังขึ้น แน่นอนละว่าคุณต้องตกใจ เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นแหละ! แต่คุณต้องรีบเรียกสติตัวเองกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งรวบรวมสติของคุณได้มากเท่าไร โอกาสที่คุณจะ ปลอดภัย ก็มีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น
2. จับพวงมาลัยให้มั่นทั้งสองมือ
เมื่อเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดขึ้น อย่าตกใจจนหักพวงมาลัยกะทันหัน โดยมากแล้วยางระเบิดจะทำให้รถส่าย จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับแรงระเบิดและความเร็วของรถ เพราะฉะนั้นพยายามประคองรถเอาไว้ให้ได้นั่นละดีที่สุ
3. คุมทิศทางด้วยการผ่อนคันเร่งแล้วเลียเบรค
เมื่อควบคุมทิศทางของรถได้แล้ว ก็ค่อยๆ ผ่อนคันเร่งแล้วแตะเบรคเบาๆ เมื่อความเร็วลดลง เพื่อประคองรถให้เข้าไหล่ทางด้านซ้าย ถ้าอยู่เลนกลางหรือเลนขวา ให้เปิดไฟฉุกเฉินขอทางเข้าเลนซ้ายด้วยละ อย่าคิดแต่จะเข้าข้างทางอย่างเดียวแล้วพุ่งพรวดไปเลย เพราะนั่นอาจทำให้เกิด อุบัติเหตุ ซ้ำซ้อนหนักขึ้นไปอีกก็เป็ได้
4. ห้ามใช้เบรคมือ
การใช้เบรคมือหรือครัชทันที หลังยางระเบิดทำให้รถมีโอกาสหมุนคว้างได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรดึงเบรคมือทันทีเป็นอันขาดแม้จะควบคุมรถได้แล้วก็ตาม สิ่งที่ควรทำคือ เลียเบรคไปเรื่อยๆ จนความเร็วรถชลอลงหรือหยุดลงในที่สุด กรณีรถเกียร์ธรรมดาที่จำเป็นต้องใช้ครัช ก็ควรใช้ต่อเมื่อรถใกล้จอดแล้วเท่านั้น
อย่างไรตาม มีบางกรณีของยางระเบิดที่ไม่สามารถให้รถอยู่ในการควบคุมได้ โดยเฉพาะในช่วงความเร็วสูง ยางระเบิดอาจจะเป็นต้นเหตุที่สำคัญ แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังอยู่ที่การรู้เท่าทันสถานการณ์และสติของผู้ใช้รถเองว่าจะทำอย่างไรต่อสถานการณ์นั้นๆ
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า “อุบัติเหตุยางรถยนต์ระเบิด” ในขณะใช้งานนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือการเลือกยางที่ไม่เหมาะสมกับรถยนต์นั่นเอง วันนี้จึงมีเทคนิคการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถของคุณมาฝากกัน ดังนี้
1. เลือกขนาดยางและกระทะล้อ ให้ถูกต้องตรงตามที่โรงงานผู้ผลิตรถยนต์กำหนด
2. เลือกยางที่รหัสความเร็ว และน้ำหนักบรรทุก เหมาะสมกับรถของคุณ
3. อายุของยางต้องไม่เก่าจนเกินไป นับจากวันเดือนปีที่ผลิตแล้วไม่ควรเกิน 6 เดือน
4. การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ควรตั้งศูนย์ล้อทั้ง 4 ล้อทุกครั้งที่เปลี่ยนยาง
5. ควรเปลี่ยนยางโดยช่างผู้มีความชำนาญ และอุปกรณ์ที่มีความพร้อม
https://youtu.be/bzoZ0iq7OC0