เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณแยกราชประสงค์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จะมีมวลชนเข้ามาร่วมเยอะ วันนี้ม็อบจุดติดอีกครั้ง คาดหวังว่าจะสะเทือนบ้างไม่มากก็น้อยเพื่อให้ทราบว่าเจตจำนงเราต้องการอะไร ที่ผ่านมามีอาการแผ่วบ้าง จากการสังเกตและพูดคุยกับคนที่มาร่วมชุมนุมมาจาก 2 ปัจจัยคือสถานการแพร่ระบาดไวรัสโควิดและสภาพเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีเงินเดินทางมาร่วมชุมนุม
.
น.ส.ปนัสยา กล่าวต่อว่า วันนี้มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อยกเลิกมาตรา 112 เราต้องการหนึ่งหมื่นรายชื่อ แต่ตอนนี้เกินแล้วแต่เราต้องการล่ารายชื่อต่อ ในการชุมนุมวันนี้เป้าหมาย 2 ประการ 1.ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 2.ปล่อยเพื่อนเรา และในวันพรุ่งนี้จะนำรายชื่อทั้งหมดไปยื่นที่ทำเนียบ โดยในวันที่ 3 พ.ย.นี้ จะมีการไต่สวนถอนการประกันตัวชั่วคราว คิดว่าอาจไม่รอดแต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ในขณะที่สหประชาชาติพูดแล้วห้ามนำเรื่องการแพร่ระบาดโควิดมาเป็นข้ออ้างในการชุมนุม แต่ไทยยังไม่ทำตาม ขณะเดียวกันมีการขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีกเพื่อเป็นเครื่องมือทั้งที่ใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคก็ได้
.
“ไม่กังวลว่าจะมีการสลายการชุมนุมเพราะบรรยากาศโอเค เป็นกิจกรรมนิ่งไม่มีอะไร ก็ขอความร่วมมือไปถึงตำรวจ การสลายการชุมนุมไม่มีความจำเป็นเลยสักครั้งที่ผ่านมา ถ้าอ้างเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำไมไม่มาช่วยกันคัดกรอง ทำไมจ้องแต่จะดำเนินคดี” น.ส.ปนัสยา กล่าว
.
จากนั้น น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมแกนนำกลุ่มคณะราษฎรยกเลิก112 ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 โดยระบุว่าเป็นกฎหมายที่ล้าหลัง คุกคามต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และเป็นเครื่องมือในการรักษาอำนาจการปกครองของเหล่าอภิสิทธิชน รวมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดีมาตรา112 รวมทั้งยังคงข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ในการปฏิรูปสถาบันต่อไป
.
จากนั้น น.ส.ปนัสยา ได้ใช้ใบมีดโกนกรีดแขนตัวเองเป็นเลข “112” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าการเรียกร้องครั้งนี้ขอแลกด้วยเลือด
.
ก่อนหน้านี้ น.ส.ปนัสยา ระบุว่า การนัดชุมนุมในวันนี้เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมในความผิดมาตรา 112 โดยวันนี้จะเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อคัดค้านมาตรา 112 ด้วย ซึ่งตนและตัวแทนกลุ่มแอมเนสตี้จะรวบรวมรายชื่อประชาชนเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้วราว 2 หมื่นรายชื่อไปยื่นต่อรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 1 พ.ย.นี้
——————————-