สปสช. โต้ข้อมูล ‘ส.ว.วีระพันธ์’ ตัวเลขค้างจ่ายให้โรงพยาบาลเกือบทั่วประเทศไม่เป็นความจริง ยันโอนงบผู้ป่วยในให้ รพ.แล้ว กว่า 3 พันล้าน
วันที่ 20 ต.ค. 2568 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า ตามที่ นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า สปสช. ค้างจ่ายเงินค่าบริการให้กับหน่วยบริการเกือบทั่วประเทศ และ ต่อมา สปสช. ได้ชี้แจงทางเว็บไซต์ สปสช. และ เฟซบุ๊ก สปสช. ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 18 ตุลาคม 2568 แต่ยังพบว่ามีสื่อมวลชนหลายแห่งยังคงนำโพสต์ของ นพ.วีระพันธ์ ไปเผยแพร่ต่อนั้น
สปสช.ขอชี้แจงอีกครั้งว่า ตัวเลขค้างจ่ายดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 สปสช. ได้โอนเงินค่าบริการผู้ป่วยใน (IP) ในรอบผลงานบริการเดือนสิงหาคม–วันที่ 15 กันยายน 2568 ให้กับหน่วยบริการแล้ว จำนวน 756 ล้านบาท โดยเป็นการโอนจ่ายตามรอบปกติของการดำเนินการตามแผน ซึ่งขณะนี้ อยู่ในช่วงของการปิดปีงบประมาณ 2568 และในวันที่ 19 ตุลาคม 2568 สปสช. ได้โอนงบบบริการผู้ป่วยใน (IP) ในรอบบริการ วันที่ 16-30 กันยายน 2568 อีกจำนวน 2,352 ล้านบาท รวมเป็น 3,108 ล้านบาท
“และภายในสัปดาห์นี้ สปสช. จะโอนเงินค่าบริการผู้ป่วยในปี 2568 ที่อยู่ระหว่างการประมวลจ่ายเพิ่มเติมให้หน่วยบริการ จำนวน 2,753 ล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณในส่วนของการปิดวงเงิน Global budget หรืองบประมาณปลายปิดผู้ป่วยในจำนวน 1,560 ล้านบาท งบประมาณในส่วนของการลดผลกระทบ DRGs หรือการจ่ายตามกลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม จำนวน 541 ล้านบาท และงบประมาณในส่วนของผลงานบริการของภาครัฐ ตามรายการ Fee schedule หรือ การจ่ายตามรายการ จำนวน 652 ล้านบาท” ทพ.อรรถพร กล่าว
โฆษก สปสช. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังมีงบประมาณตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2569 ที่ สปสช.จะโอนให้หน่วยบริการตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 อีกจำนวน 2,053 ล้านบาท ภายในสัปดาห์หน้าเช่นกัน โดยเป็นงบในส่วนของค่าบริการกรณีเฉพาะ บริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และบริการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์
“ทั้งนี้ จากโพสต์ของ นพ.วีระพันธ์ ที่ระบุจำนวนค้างจ่ายของแต่ละโรงพยาบาลนั้น สปสช.ขอย้ำว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่ทราบว่านำตัวเลขเหล่านั้นมาจากแหล่งใด ในส่วนของการจ่ายเงินให้กับโรงพยาบาลนั้น สปสช. ดำเนินการตามรอบปกติและมีการประมวลผลก่อนจ่าย การจ่ายเป็นไปตามประกาศหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎหมายทุกประการ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือไม่สร้างความสับสนแก่ประชาชน” ทพ.อรรพร กล่าว
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของตัวเลข AdjRW. หรือค่าน้ำหนักสัมพันธ์ ที่ระบุว่า ลด AdjRW. จาก 8,350 บาท ลงไปเหลือ 6,643 บาทนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ในปีงบประมาณ 2568 สปสช. จ่ายงบบริการผู้ป่วยในให้กับโรงพยาบาลข้อมูล 10 เดือน (ตุลาคม 2567-กรกฎาคม 2568) จ่ายเบื้องต้น 8,350 บาทต่อ AdjRW.
แต่เนื่องจากเป็นงบประมาณปลายปิด เมื่อคำนวณผลงานการให้บริการใน 2 เดือนที่เหลือ คือ สิงหาคม และกันยายน 2568 พบว่าค่าเฉลี่ยภาพรวมทั้งประเทศประมาณ 7,800 บาทต่อ AdjRW. ซึ่งตามหลักการทางบัญชีต้องมีการคิดคำนวณย้อนหลัง จึงเป็นเหตุให้ สปสช. ต้องคำนวณและปรับการจ่ายใหม่
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละโรงพยาบาลจะมีค่าน้ำหนัก AdjRW. แตกต่างกันเนื่องจาก ค่า k ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) คำนวณในลักษณะของการปรับเกลี่ยระหว่างโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการจัดสรรภายในของ สป.สธ. เองทั้งนี้ ในส่วนของงบประมาณค่ารักษาผู้ป่วยในที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากการใช้บริการผู้ป่วยในเพิ่มมากกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น ที่ผ่านมามติบอร์ด สปสช. ได้ดำเนินการของบกลางจากรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อให้ได้อัตรา 8,350 บาทต่อ AdjRW. ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป