สกู๊ปข่าว » #มุขอุ้มโกตี๋ก็แค่อุบายเก่าๆ

#มุขอุ้มโกตี๋ก็แค่อุบายเก่าๆ

31 July 2017
1049   0

           มุขอุ้มโกตี๋เป็นเพียงกลยุทธ์ทางการเมือง ในการปลุกกระแส โดยมีหลักในการก่อตัวทางการเมือง เพื่อปลุกบรรดาพวกไม่ประสาการเมือง ตกเป็นเหยื่อ เหมือนที่ผ่านๆมา

          มุขนี้ไม่ใช่เอามาใช้ครั้งแรก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ถูกนำมาใช้ หลักเชิงยุทธวิธี คือใช้ทฤษฎีของกำชี้ โกหกซ้ำๆจนเข้าใจว่าเรื่องโกหกเป็นเรื่องจริง เพื่อปลุกกระแส ปลูกฝังทางความคิด คลอบงำทางจิตใจ จนกลายเป็นอุดมการณ์ ทางการเมือง ให้ออกมาตายแทนพวกนักโกงเมือง ก็เท่านั้นเอง 
        การที่ชายผู้น่าสังเวชส่งสัญญาณ ทางการเมืองมาถึง 2 ครั้ง ก็เหมือนทุกรอบที่ผ่านมาคือ “รุก” ปลุกคนรุกออกมาตายแทนเขา เหมือนทุกครั้ง เพื่อให้อำนาจมาอยู่ในมือ แล้วค่อยเอาเงินไปจ่ายญาติคนตาย โดยเงินก็ไม่ใช้เงินตัวเอง แต่เอาเงินภาษีของพวกคนตายและญาตินั้นแหละมาจ่ายให้ 
        ตอนนี้วิทยุชุมชน ทีวีดาวเทียม ทีวีดิจิตอล ของพวกต่อต้านชาติ กำลังใช้กลยุทธ์โดยมีหลักเดียวกันคือ “การก่อตัวทางการเมือง” ใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ในการรุกในเชิงยุทธวิธี ลดความน่าเชื่อถือ ของนักการทหาร โดยยึดหลักการโกหกซ้ำๆ ผ่านสื่อใหม่


        ไม่มีที่ไหนในโลก ที่จะให้มีการปล่อยให้พวกต่อต้านชาติของคนเอง มีสื่อในมือ แล้วมาอ้างสิทธิเสรีภาพ แต่เห็นต่าง เพราะสื่อคืออาวุธ แหลมคมกว่าดาบ ปืน อาวุธใดๆ  ที่จะคอยปลุกระดมประชาชนออกมาต่อต้านฝ่ายปกครอง คงมีประเทศไทยชาติเดียวในโลกที่ปล่อยเช่นนี้ เหตุการณ์เมษาจราจลปี 52 พฤษภาทะเลเพลิงปี 53 ก็เพราะสื่อวิทยุชุมชน ที่เขาให้สส.ตั้งทุกอำเภอ ที่มีทีวีดาวเทียมเป็นหลักในการกระจายความคิด เพื่อเข้าสู่เป้าหมายหลักคือ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดยหลอกประชาชนมาตาย มาสู้แทน
        การแก้ทุกปัญหาคนส่วนใหญ่ชอบแก้ที่ปลายเหตุ แล้วก็จะมาแก้ซ้ำแล้วซ้ำอีก วนอยู่ที่เดิม นานไม่นานก็แค่สิบกว่าปีที่วนมาแบบเดิม เจ็บตายกันเป็นเบือ เพราะเครื่องมือเหล่านี้ จึงควรพิจารณาแก้ไขให้ถูกทาง อย่ามานั้งแก้ที่ปลายเหตุอีกเลย

       ส่วนเรื่องข้าวแพงเอามาขายถูก ควรสั่งสอบสวนเอาผิดทุกคน หากพบการกระทำความผิด เพื่อยุติการก่อตัวทางการเมือง ก่อนจะบานปลายเป็นจราจลในวันที่ศาลตัดสินคือวันดีเดย์ ส่วนเรื่องโกตี๋ ก็ควรเอาผิดกับพวกโกหก ที่เจตนาจะปลุกปั่น เพื่อให้เกิดการก่อตัวทางการเมือง เข้าสู่จราจล สงครามกลางเมือง ปฏิวัติโดยประชาชน โดยมีกองกำลังติดอาวุธเสริม แล้วเปลี่ยนการปกครอง เป็นสหพันธรัฐไืทยใหม่ ที่พวกเขาจะแบ่งชาติไทยออกเป็นส่วนๆ

      จัดให้มีการเลือกตั้ง แบ่งเค๊ก ให้พวกเขาได้ปกครองแต่ละจังหวัด ก็แค่นั้นเอง คือ “สมประโยชน์” อันเป็นหลักที่ ซุนยัดเซ็น เคยเจรจากับต่างชาติยกดินแดนให้ แลกกับการสนับสนุนเปลี่ยนการปกครอง ล้มล้างระบอบกษัตริย์ในจีน 
        สิ่งเหล่านี้คือกลยุทธ์ทางการเมือง ที่ฝ่ายต่อต้านใช้กุข่าว โจมตี ใช้สื่อใหม่ เร่งปฏิกิริยาให้เกิดการก่อตัวทางการเมือง เพื่อเข้าสู่สงคราม เอาเบี้ยคือประชาชน มารบกับทางบนถนน เพื่อหวังกินม้า กินขุน คือ ผบ.ตร. -ผบ.ทบ.-นายก ให้ถูกดำเนินคดี ย้อนรอย กรณี 7 ตุลาคม 2551 สังหารหมู่พธม. ที่มีการเอาผิดกับ ผู้นำของฝ่ายเขาถึง2คน ก็แค่นั้นเอง 

” เดินการเมืองก็เหมือนเดินหมากรุก เดินหมากรุกยังต้องคิด หมากชีวิตไม่คิดได้อย่างไร “

เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา

31 กรกฎาคม 2560