16 ต.ค.60-ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเอาผิดทางวินัย พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บังคับการนครบาล 5 (รอง ผบก.น.5)
ที่เกี่ยวพันในการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว เรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อสรุปสำนวน
ไทยโพสต์ – หลังจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงมีมติให้มีความผิดวินัยร้ายแรง ตามม.78 (1) ประกอบม.79 (6) ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 หลังพบมีความผิดด้วยการใช้รถผิดกฎหมาย พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีคดีโครงการรับจำนำข้าวเพื่อเสนอ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงอีกครั้ง
ภายหลังการประชุม คณะกรรมการสืบสวนคดีเท็จจริงมีมติสรุปชี้มูลความผิด พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ผิดตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ม.78 (1) ประกอบ ม.79 (6) หมายความว่าในประเด็นแรกกรณีใช้รถด้วยมิชอบด้วยกฎหมาย กรณีนี้ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามม.78 (1) กรณีที่ 2 พาอดีตนายกรัฐมนตรีไปส่งที่ชายแดน ทางคณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ผิดวินัยร้ายแรงเพราะทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงผิดตามม.79 (6) โดยจะสรุปสำนวนเสนอให้พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หัวหน้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าอย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ภายหลังจากที่มีการพิจารณาจากคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยของทาง บช.น.แล้ว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมการอีกครั้ง ส่วนของการใช้รถ สน.ปทุมวัน ดำเนินการสอบสวนอยู่ รวมถึงกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น จากการตรวจสอบล่าสุดในขณะนี้ดีเอ็นเอสิ่งเจือปนเยอะไม่สอดคล้องกับพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ทางพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้สั่งการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
สำนักข่าววิหคนิวส์